อภิมหาเมกาโปรเจกต์ระดับประเทศ “ไอคอนสยาม” พื้นที่คอมเพลกซ์ขนาดใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปได้เข้ามายลโฉมกันแล้วในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โดยพันธกิจสำคัญที่ไอคอนสยามยึดถือและต้องการนำเสนอให้เป็นที่ประจักษ์ทั่วทุกมุมโลก ได้แก่ คุณค่าความเป็นไทย ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่ตอบโจทย์ดังกล่าวก็คือ โครงการ “สุขสยาม” เมืองมหัศจรรย์แห่งความสุขวิถีไทยในรูปแบบ “Co-Creation”
สุขสยาม เป็นการผนึกกำลังระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ ศิลปิน วิสาหกิจท้องถิ่น ชุมชนวิถีไทย และผู้ประกอบการรายย่อยระดับท้องถิ่นทั้ง 77 จังหวัด เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ช่วยส่งเสริมให้คนไทยภาคภูมิใจในศักยภาพของความเป็นไทย สืบสานมรดกทางภูมิปัญญา และสนับสนุนผู้ผลิตจากท้องถิ่นในการรักษาสืบทอดอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษให้คงอยู่อย่างยั่งยืน สุขสยามจะทำหน้าที่เสมือน “เวที” นำเสนอสุดยอดผลิตภัณฑ์ทั้งสี่ภูมิภาคหลักของประเทศไทย
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารโครงการไอคอนสยาม กล่าวว่า สุขสยามเป็นการจัดสรรเนื้อที่ชั้นล่างสุด (ชั้น G) ในส่วนห้างสรรพสินค้าพื้นที่ประมาณ 15,000 ตารางเมตรหรือ 10 ไร่ ให้เป็นเมืองแห่งวิถีไทยนำเสนอผลิตภัณฑ์และผลงานสร้างสรรค์จากภูมิปัญญาไทย งานศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตดั้งเดิมของแท้จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศมาไว้ในพื้นที่เดียวกัน ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 3,000 ผู้ประกอบการรายย่อยที่ผ่านการสรรหามาแล้วว่า มีเอกลักษณ์และชื่อเสียงจากท้องถิ่นต่าง ๆ
“สุขสยาม” มีการออกแบบที่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงด้วยบรรยากาศที่สะท้อนรูปแบบวิถีชีวิตพื้นบ้าน มีการจำลองชีวิตริมน้ำดั้งเดิมของคนไทยมาไว้ในไอคอนสยามทั้งการตกแต่งด้วยโทนสีไม้ การจำลองเรือพายขายของริมน้ำ หรือกระทั่งการจำลองแม่น้ำมาไว้ในสุขสยาม ซึ่งร้านค้าในพื้นที่จะมีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันจัดแสดงสินค้า มีกิจกรรมอบรมมากมายตลอดทั้งปีเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการและช่างฝีมือตัวจริงจากทั่วประเทศที่ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายของกรมพัฒนาชุมชน โดยจะมีการจัดโซนนิ่งผลิตภัณฑ์ตามภูมิภาค พร้อมมุมเวิร์คช็อปที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมา วิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าได้อย่างลึกซึ้ง
“ทั้งหมดนี้จะทำให้สุขสยามกลายเป็นศูนย์กลางที่รวบรวมองค์ความรู้ในทุกมิติของประเทศไทย (Knowledge Hub) ทั้งอาหาร เวชศาสตร์ ศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรม หัตถกรรม ที่ครบครันที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” นางลักขณา นะวิโรจน์ ผู้เชี่ยวชาญในการเลือกสุดยอดสินค้าและอาหารจากต้นตำรับทั่วประเทศกล่าวปิดท้าย