ควีนเอลิซาเบธ 2 ยอดสตรีของโลก

ข่าวซึ่งได้รับการยืนยันจากสื่อยักษ์ใหญ่เมืองผู้ดีอังกฤษ “เดอะ เมล์” ว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ เตรียมสละราชสมบัติในอีก 4 ปีข้างหน้า คือเมื่อทรงเจริญพระชนมพรรษา 95 พรรษา เพื่อเปิดโอกาสให้พระราชโอรสองค์โต คือ สมเด็จเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ต่อไปนั้น สร้างความสนใจกับคนทั้งโลก เพราะเรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายก็เป็นเพียง “ข่าวลือ”

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ขณะนี้เจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา ได้ชื่อว่าทรงเป็น สมเด็จพระราชินีที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก และถึงแม้จะเจริญพระชนมพรรษาสูงวัยมาก แต่ทุกวันนี้

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงยิ่ง ยังทรงปฏิบัติหน้าที่และพระราชกรณียกิจได้อย่างสง่างามสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม เพราะทรงตระหนักดีว่าทรงเจริญพระชนมพรรษามาก จึงทำให้ทรงอยากสละราชสมบัติ และจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับองค์รัชทายาท

ตามประวัติศาสตร์ระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ประสูติเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2469 เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 พระองค์เป็นประธานเครือจักรภพและพระมหากษัตริย์แห่งเจ็ดรัฐเครือจักรภพ ได้แก่ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ ปากีสถาน และซีลอน จำนวน

ราชอาณาจักรของพระองค์แปรผันเมื่อดินแดนต่าง ๆ ได้รับเอกราช และบ้างกลายเป็นสาธารณรัฐ ปัจจุบันนอกจากสี่ประเทศแรกที่ได้กล่าวแล้ว สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ยังเป็นพระราชินีนาถแห่งจาเมกา บาร์เบโดส หมู่เกาะบาฮามาส เกรนาดา ปาปัวนิวกินี หมู่เกาะโซโลมอน ตูวาลู เซนต์ลูเซีย เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ แอนติกาและบาร์บูดา เบลิซ และเซนต์คิตส์และเนวิส

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์แรกของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ เมื่อทรงพระเยาว์ประทับ ณ กรุงลอนดอน บริเวณพิกคาเดลลี ไวต์ลอดจ์ ริชมอนด์ พาร์ก และพระตำหนักในชนบทของพระอัยยิกา เมื่อพระชนมายุได้ 6 พรรษา พระบิดาได้พระราชทานพระตำหนักในวินด์เซอร์เกรตพาร์กให้เป็น

ที่ประทับนอกเมือง ทรงได้รับการศึกษาชั้นต้น ณ ที่ประทับ และเมื่อพระบิดาได้เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์จึงต้องทรงศึกษาทางด้านประวัติศาสตร์และกฎหมาย เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเป็นกษัตริย์ในอนาคต รวมทั้งทรงศึกษาทางด้านศิลปะ ดนตรี และเรียนการขี่ม้า ซึ่งต่อมากลายเป็นกีฬาที่โปรดปราน

เมื่อยังทรงพระเยาว์ก็เริ่มปฏิบัติพระราชกรณียกิจครั้งแรก ทรงมีพระราชดำรัสออกอากาศ ในรายการสำหรับเด็กในประเทศอังกฤษ และเครือจักรภพของบีบีซี เมื่อพระชนมายุ 18 พรรษา ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษารัฐบาล และได้เริ่มปฏิบัติพระราชกรณียกิจแห่งองค์รัชทายาทเป็นครั้งแรก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารนอกประจำการ มีพระราชกรณียกิจต้องเสด็จประพาสภายในและนอกประเทศ และ

เป็นช่วงที่ครบรอบวันประสูติปีที่ 21 ซึ่งทรงประกาศหมั้นกับ “เรือโทฟิลลิปส์ เมาท์แบทเท็น” ต่อมาคือ เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามี โดยพระราชพิธีอภิเษกสมรสจัดขึ้นที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490

พระราชโอรสพระองค์แรก คือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ปัจจุบันมีพระอิสริยยศเป็น “เจ้าชายแห่งเวลส์” พระองค์ที่สองเป็นพระราชธิดา เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ปัจจุบันมีพระอิสริยยศเป็น “เจ้าหญิงพระราชกุมารี” พระราชโอรสพระองค์ที่สาม เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์

ปัจจุบันมีพระอิสริยยศเป็น “ดยุกแห่งยอร์ก” และพระราชโอรสพระองค์สุดท้อง เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ปัจจุบันมีพระอิสริยยศเป็น “เอิร์ลแห่งเวสเซ็กส์”

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 แม้จะเจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา แต่ยังทรงมีพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์เกินสุภาพสตรีในวัยเดียวกัน พระพักตร์สดชื่น แย้มพระสรวลตลอดเวลา ไม่ปรากฏร่องรอยความร่วงโรย ทั้งยังพระดำเนินได้อย่างคล่องแคล่วสง่างามไม่ต้องใช้ไม้เท้า

เป็นที่รู้กันของคนในวังว่า ควีนของพวกเขานั้นทรงออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวัน โดยจะทรงขี่ม้าสัปดาห์ละ 2 วัน และเดินเร็วรอบพระราชวัง ทรงให้ความสำคัญกับการพักผ่อนอย่างมาก ต้องบรรทมให้ได้วันละ 7 ชั่วโมง ทรงตื่นบรรทมตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง หลังจากเสวยอาหารเช้าแล้วจะทรงจูงสุนัขไปเดินเล่นด้วยพระองค์เอง

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีหัวหน้าทีมดูแลพระกระยาหารในแต่ละวัน ซึ่งมีรายชื่อเมนูอาหารให้ทรงเลือก ขณะที่อดีตพ่อครัวประจำวังระบุว่า ควีนของพวกเขาไม่โปรดเสวยแป้ง หลังเสวยพระกระยาหารจะมีเครื่องดื่มทุกมื้อ บางครั้งเสด็จไปเลือกซื้อเครื่องดื่มที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เวตโทรส (Waitrose) ด้วยพระองค์เอง

สำหรับมื้อเช้าหลังจากตื่นบรรทม ทรงเริ่มเสวยชาสูตร Earl Grey Tea ไม่ผสมนมและน้ำตาล พร้อมเสวยขนมบิสกิต หลังจากนั้นจะเสวยซีเรียลและผลไม้ บางครั้งก็ทรงเลือกเมนูขนมปังและแยมแทนซีเรียล โดยแยมนั้นเป็นแบรนด์ของ Wilkin & Sons แต่ก็มีบางวันที่เสวยไข่คน

แซลมอนรมควัน และเห็ดทรัฟเฟิล หากเสวยไข่ไก่ต้องเป็นไข่ไก่เปลือกสีน้ำตาลเท่านั้น ซึ่งเป็นไข่ที่มาจากแม่ไก่พันธุ์ใหญ่ เสวยน้ำขิงและไวน์ยี่ห้อ Dubonnet พร้อมกับเลมอนสไลซ์บางและน้ำแข็ง พระกระยาหารมื้อเที่ยง โปรดเมนูง่าย ๆ เช่น ปลาและผัก บางครั้งเมนูไก่ย่างและสลัด

ส่วนในช่วงบ่าย จะเสวยน้ำชาเป็นประจำ ส่วนพระกระยาหารมื้อเย็น จะเสวยเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อปลา เนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อไก่ หรือแซลมอน ซึ่งทั้งหมดจะเป็นเนื้อสัตว์ที่นำมาจากฟาร์มส่วนพระองค์ในปราสาทแบลมอรัล (สกอตแลนด์) และตำหนักซานดริงแฮม ในมณฑลนอร์ฟอล์ก ซอสปรุงรสเป็นซอสยี่ห้อ Lea & Perrins, HP Sauce และ Heinz Ketchup เมนูขนมหวานจะใช้วัตถุดิบธรรมชาติ เช่น สตรอว์เบอรี่ จากสวนในปราสาทแบลมอรัล หรือลูกพีช จากฟาร์มเรือนกระจกที่ปลูกในพระราชวังวินด์เซอร์

ควีนเอลิซาเบธยังโปรดช็อกโกแลตเป็นพิเศษอีกด้วย และจะต้องเป็นแบรนด์ของ Charbonnel et Walker, Bendicks และ Prestat และที่ขาดไม่ได้สุดท้ายของมื้ออาหาร คือ ทรงดื่มแชมเปญตามหลังอาหารมื้อสุดท้ายของวันเป็นประจำ

และสิ่งที่ไม่ค่อยมีคนรู้มากนัก คือ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ทรงมีตู้ ATM เป็นของพระองค์เอง โดยธนาคาร Coutts จัดตู้ ATM ส่วนพระองค์ถวาย โดยจัดไว้ที่ชั้นใต้ดินของพระราชวังบักกิ้งแฮม

ทุกปี พระองค์ทรงมีโอกาสฉลองวันเกิด 2 ครั้ง คือ วันที่ 21 เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ส่วนอีกครั้งเป็น “วันเกิดในฐานะราชินี” ปัจจุบันทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจปีละ 341 งาน งานพระราชกรณียกิจภายในประเทศ 306 งาน พระราชกรณียกิจต่างประเทศ 35 งาน

ที่น่ารักสุด ๆ ของ “ควีนแห่งโลก” ก็คือ นอกจากแก๊ง Corgi สุนัขทรงเลี้ยงทั้งหมดแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นเจ้าของฝูงหงส์ทั้งหมดในแม่น้ำเธมส์ ฝูงปลาโลมาในน่านน้ำสหราชอาณาจักร เหล่าปลาสเตอร์เจียนและฝูงวาฬด้วย