พลังงาน จี้ มหาดไทย ชงของบกลาง 8 พันล้าน ช่วยลดค่าไฟ หวั่นไม่ทัน 1 ก.ย.

พลังงาน จี้ มหาดไทย ชงของบกลาง 8 พันล้าน ช่วยลดค่าไฟ หวั่นไม่ทัน 1 ก.ย.

พลังงาน จี้ “มหาดไทย” ต้นสังกัด ‘กฟภ.-กฟน.’ ทำหน้าที่ชงของบกลาง 8,000 ล้าน ช่วยลดค่าไฟฟ้าเข้าครม. 30 ส.ค.นี้ หวั่นล่าช้าไม่ทันค่าเอฟทีขึ้น 1 ก.ย.

วันที่ 30 สิงหาคม 2565 นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าแนวทางช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มบ้านที่อยู่อาศัยไม่เกิน 300 และระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้า ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธาน มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา เป็นเวลา 4 เดือน ใช้เงินงบประมาณ 8,000 ล้านบาท ว่า

เนื่องจากมาตรการนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 80% ของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 89% ของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย

ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยในฐานะเจ้ากระทรวงที่ดูแล กฟน. และ กฟภ.จึงจะเป็นผู้นำเสนอของบกลางจากสำนักงบประมาณ และสำนักงบประมาณจะเป็นผู้ทำเรื่องเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาเห็นชอบต่อไป กระทรวงพลังงานไม่ได้เป็นผู้เสนอของบประมาณโดยตรง

สำหรับความคืบหน้าการขอให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้กรอบวงเงิน 85,000 ล้านบาท ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ล่าสุดได้ส่งเรื่องไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวไม่ทราบว่าได้มีการบรรจุเข้าเป็นวาระแล้วหรือไม่

แหล่งข่าวให้ความเห็นว่า มาตรการดังกล่าวเป็นเรื่องที่รัฐบาลควรเร่งสรุปงบประมาณล่วงหน้าเป็นเดือน เพื่อให้การไฟฟ้ามีเวลาเตรียมตัวเรื่องบิลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งในความเป็นจริงการประชุม ครม.วันที่ 30 ส.ค.นี้จะต้องอนุมัติงบประมาณแล้ว

หากล่าช้าไปกว่านี้จะไม่ทันค่าไฟงวดใหม่วันที่ 1 ก.ย.นี้ ที่ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟในอัตรา 4.72 บาทต่อหน่วย ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศไว้ และจะทำให้มีปัญหาการเคลียร์ค่าใช้จ่ายย้อนหลัง เสียเวลาและสร้างความยุ่งยากให้กับทุกฝ่าย

“กกพ.ประกาศปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ไปแล้ว ซึ่งรัฐบาลเองน่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ว่าราคาค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นมาจากหลายปัจจัย เช่น ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลดลง นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ราคาสูง จนต้องมีการใช้น้ำมันเตา น้ำมันดีเซลมาเฉลี่ยต้นทุนราคาให้ถูกที่สุด ดังนั้น หากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือค่าไฟตามที่กระทรวงพลังงานนำเสนอ จะต้องเร่งพิจารณางบประมาณดังกล่าวโดยด่วน” แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับส่วนลดค่าไฟแบบขั้นบันไดสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน ในอัตรา 15-75% แบ่งเป็นการใช้ไฟตั้งแต่ 301-350 หน่วยต่อเดือน ได้ส่วนลด 75% ของค่าเอฟที หรือได้รับส่วนลดค่าเอฟทีประมาณ 51.50 สตางค์ต่อหน่วย ครอบคลุมผู้ใช้ไฟประมาณ 919,163 ราย

กรณีใช้ไฟตั้งแต่ 351-400 หน่วยต่อเดือน ได้ส่วนลด 45% หรือได้รับส่วนลดค่าเอฟทีประมาณ 30.90 สตางค์ต่อหน่วย มีผู้ใช้ไฟประมาณ 741,199 ราย กรณีใช้ไฟตั้งแต่ 401-500 หน่วยต่อเดือน จะได้ส่วนลด 15% หรือได้รับส่วนลดค่าเอฟทีประมาณ 10.30 สตางค์ต่อหน่วย มีผู้ใช้ไฟประมาณ 1.06 ล้านราย

ในส่วนของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย จากการเพิ่มขึ้นค่าเอฟทีเดือน พ.ค.-ส.ค. 23.38 สตางค์ต่อหน่วย และส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่าเอฟทีเดือน ก.ย.-ธ.ค. 68.66 สตางค์ต่อหน่วย ช่วยให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2565 ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน จ่ายค่าเอฟทีเท่ากับงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2565 หรือประมาณ 3.78 บาทต่อหน่วย