เอกชนชะลอลงทุนโค้งสุดท้าย รอลุ้นยุทธศาสตร์บีโอไอฉบับใหม่ปี’66

บีโอไอ

บีโอไอ เตรียมต่อทุกมาตรการส่งเสริมอีก 6 เดือน จากเดิมสิ้นสุดปี 65 หลังคาดการณ์ร่างยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ลากยาวจบกลางปี 2566 ด้านเอกชน ชี้นักลงทุน “ชะลอ” ตัดสินใจรอยุทธศาสตร์ใหม่ ยอดส่งเสริมเสี่ยงพลาดเป้า 5 แสนล้าน

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดทำยุทธศาสตร์ฉบับใหม่หลังจากผ่านมาครึ่งทางว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างปรับปรุงรายละเอียดอีกหลายส่วน โดยเฉพาะเรื่องขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ที่ประกาศเรื่องอัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำ หรือ Global Minimum Tax Rate จากบริษัทข้ามชาติทั่วโลก

โดยอัตราภาษีดังกล่าวจะถูกกำหนดเอาไว้ที่ 15% นั้น จะต้องมีผลต่อการปรับมาตรการส่งเสริมอย่างไรบ้าง เพราะต่อให้บีโอไอยกเว้นภาษีรายได้นิติบุคคลให้ แต่เอกชนก็ต้องเสียภาษี OECD นี้อยู่ดี และด้วยเกณฑ์ OECD ปรับเปลี่ยนตลอด

ดังนั้น จำเป็นต้องหาวิธีที่ดีและเป็นประโยชน์ที่สุด อีกทั้งบีโอไอต้องปรับแก้ประเภทกิจการ หลักเกณฑ์การให้สิทธิ จึงคาดว่ายุทธศาสตร์อาจล่าช้าไปอีก 6 เดือน หรือ ภายในกลางปี 2566 หรืออย่างเร็ว คือ ไตรมาส 1 ปี 2566

ส่งเสริมการลงทุน65

ขณะที่มาตรการส่งเสริมการลงทุนทุกมาตรการที่เคยได้ประกาศใช้นั้น ทั้งหมดกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการยื่นขอรับส่งเสริมในสิ้นปี 2565 นี้ แต่ด้วยยุทธศาสตร์ยังไม่แล้วเสร็จ จึงจำเป็นที่ต้องขอคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) พิจารณาต่ออายุระยะเวลาการยื่นขอรับการส่งเสริม อีก 6 เดือน หรือจนกว่ายุทธศาสตร์ใหม่จะแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ มาตรการส่งเสริมหลัก ๆ ที่บีโอไอมีนั้น มีหลายด้าน เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพ การส่งเสริม SMEs การลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร การพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) การส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจฐานราก และการส่งเสริมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET-mai เป็นต้น

“เป้าหมายการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2565 คาดว่าจะถึง 500,000 ล้านบาท จากเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว นโยบาย BCG และ EV ทำให้นักลงทุนหลายรายพร้อมขยายการลงทุนมาไทย”
แหล่งข่าวจากภาคเอกชน กล่าวว่า

มาตรการของบีโอไอยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนสนใจการลงทุนมาที่ไทย และแน่นอนว่าการที่ยุทธศาสตร์ของบีโอไอยังไม่แล้วเสร็จ แม้จะต่อขยายเวลามาตรการทุกตัวออกไปอีก แต่จะมีนักลงทุนบางรายที่ขอชะลอการตัดสินใจไว้ก่อน

เนื่องจากรอดูมาตรการใหม่ และยุทธศาสตร์ใหม่ที่เชื่อว่าจะต้องปรับแก้ให้ดีกว่าเดิมแน่นอน ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นจึงจะเห็นความคึกคักการยื่นขอบีโอไอกลับมา อาจทำให้ปี 2566 ตัวเลขส่งเสริมการลงทุนทะลุเป้ากว่าที่คาดไว้ แต่ในทางกลับกัน อาจทำให้เป้าที่ตั้งไว้ปีนี้ 500,000 ล้านบาทไม่ถึงก็เป็นได้