ภารกิจ OR ที่ต้องสานต่อ

ร่วมมือ OR

น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานของบริษัทในอนาคตที่จะส่งต่อ “ภารกิจ” ให้กับ CEO คนใหม่

ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้ว่า แนวทางการทำธุรกิจของ OR “ยังคงเหมือนเดิม” แม้ตนจะเกษียณอายุครบ 60 ปีในสิ้นเดือนกันยายนนี้ เนื่องจาก OR ได้วางกรอบการดำเนินงานที่ชัดเจนและมีความโปร่งใส ขณะเดียวกัน OR มีการทำงานเป็นทีม แม้ว่าสถานการณ์ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงไป “OR ก็สามารถรับมือได้”

ทั้งนี้ CEO ของ OR คนใหม่จะต้องสานต่อธุรกิจในอนาคตจาก OR Oil and Retail มาเป็น OR Retail and Oil ตามสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป หรือจากธุรกิจพลังงานฟอสซิลมาสู่ยุคพลังงานสะอาด พร้อมทั้งรองรับพฤติกรรมการบริโภคของคนยุคใหม่ในอนาคต

“ไม่มีความกังวลใด ๆ ว่าใครจะเป็น CEO OR ขึ้นอยู่กับบอร์ด ปตท.ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบการคัดเลือกว่าจะเป็นรูปแบบการสรรหา แต่คุณสมบัติเบื้องต้นที่ควรมี ต้องฟังซึ่งกันและกัน ทำงานเป็นทีม เข้าใจทิศทางการทำงานร่วมกัน

และอยู่ในบริบทที่ว่า OR เป็นรัฐวิสาหกิจ ต้องไม่มองเพียงแค่เพอร์ฟอร์แมนซ์ แต่มองเข้าไปดูถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม การยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน รวมไปถึงเรื่องการค้าระหว่างประเทศ” น.ส.จิราพรกล่าว

โดยพันธกิจหลัก 4 ด้านของ OR คือ การสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังานแบบผสมผสาน เพื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility), การสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตอย่างครบวงจร เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ (All Lifetyless), การขยายฐานธุรกิจเพื่อสร้างความสำเร็จ

และการยอมรับในตลาดโลก (Global Market) และการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับสู่นวัตกรรมในแบบฉบับของ OR (OR Innovation) เพื่อผลักดันให้นำไปสู่เป้าหมายปี 2030

นอกจากนี้ OR ยังต้องพร้อมที่จะ Transform ธุรกิจสู่ Inclusive Growth Platform การสร้างการเติบโตร่วมกันทั้ง Ecosystem เติมเต็มโอกาสเพื่อทุกการเติบโตร่วมกันกับทุกภาคส่วน

และต้องมองหา “ธุรกิจใหม่” เพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจ ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกพร้อมเติบโตร่วมกันไปกับพันธมิตร ผ่านการดำเนินธุรกิจแบบ Triple Bottom Line ด้วย

ปัจจุบัน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) มีสถานีบริการน้ำมันจำนวน 2,473 แห่ง มีลูกค้า 3.8 ล้านคน/วัน มีร้านคาเฟ่อเมซอนจำนวน 4,051 แห่ง ร้านสะดวกซื้อจำนวน 2,183 แห่ง มีการสร้างเครือข่าย SMEs จำนวน 13,000 ธุรกิจ มีการจับคู่ธุรกิจ 2,600 ธุรกิจ มีการลงทุนใน 10 ประเทศทั่วโลก ทั้งกัมพูชา, สปป.ลาว, เวียดนาม, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, จีน, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น และโอมาน

โดยล่าสุดมีรายงานข่าวเข้ามาว่า คณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะมีการประชุมเพื่อที่จะพิจารณาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ในวันที่ 15 กันยายน 2565