CPF ช่วยคู่ค้าธุรกิจ 1.5 หมื่นราย เสริมแกร่งสภาพคล่อง สร้างโอกาสเติบโตยั่งยืน

CPF ช่วยคู่ค้าธุรกิจ

ซีพีเอฟ เดินหน้าโครงการช่วยเหลือคู่ค้าธุรกิจกว่า 15,000 รายต่อเนื่อง ผนึกพันธมิตรเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เพิ่มโอกาสธุรกิจให้แก่คู่ค้า ยกระดับสู่ผู้ประกอบการระดับโลก หนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

วันที่ 19 ตุลาคม 2565 นางสาวธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่าในเดือนกันยายน ปีนี้ ซีพีเอฟร่วมกับธนาคารกรุงเทพ ดำเนิน โครงการ “CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง…เคียงข้างคู่ค้า” เพื่อช่วยเหลือให้คู่ค้าธุรกิจกว่า 15,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีคู่ค้าที่เป็นผู้ประกอบการ SME กว่า 5,000 รายสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ สำหรับใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ผ่านบริการสินเชื่อหมุนเวียนอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษ ของธนาคารกรุงเทพ

เพื่อเป็นโครงการช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องทางการที่แข็งแรงให้คู่ค้าซีพีเอฟสามารถประกอบธุรกิจได้ต่อเนื่อง ช่วยลดภาระหนี้สินและต้นทุนให้แก่คู่ค้าธุรกิจ เพิ่มโอกาสให้คู่ค้าสามารถขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง ในช่วงที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกยังคงมีความผันผวน

“โครงการ CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง…เคียงข้างคู่ค้า ได้รับการตอบรับจากคู่ค้ามีความต้องการเข้าร่วมเป็นจำนวนมากนับตั้งแต่เปิดตัวเพียงเดือนเดียว โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ที่จะได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำได้มากขึ้น นับเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทย และเตรียมความพร้อมในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารได้อย่างยั่งยืน” นางสาวธิดารัตน์กล่าว

โครงการ “CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง…เคียงข้างคู่ค้า” เป็นการต่อยอดจากโครงการ Faster Payment ที่ซีพีเอฟริเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563-ธันวาคม 2565 ด้วยการลดระยะเวลาเครดิตเทอมภายใน 30 วัน ซึ่งสามารถช่วยเหลือคู่ค้า SME จำนวนกว่า 5,000 รายที่ขาดสภาพคล่อง มีเงินหมุนเวียนใช้การดำเนินกิจการได้ สามารถดูแลหรือช่วยเหลือพนักงานอย่างทั่วถึง และสามารถข้ามผ่านในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ได้อย่างเข้มแข็ง

ADVERTISMENT

“คู่ค้าธุรกิจมีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานของซีพีเอฟในการผลิต ส่งมอบอาหารคุณภาพสูง ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแก่ผู้บริโภคทั่วโลกได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง ตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินโครงการหลากหลาย เพื่อช่วยให้คู่ค้ามีความพร้อมทั้งการเงินและทักษะความรู้ที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและพร้อมรับมือกับทุกความท้าทายที่เกิดขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสผู้ประกอบการประสบผลสำเร็จและเติบโตต่อไปในอนาคต”

ADVERTISMENT

นอกจาก สภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแรงแล้ว ซีพีเอฟยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจยึดหลัก ESG (Environment, Social, Governance) ภายใต้บริบทของโลกยุคใหม่ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถยกระดับเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป

โดยซีพีเอฟตรวจประเมินสถานประกอบการและโรงงานผลิตของคู่ค้าธุรกิจเป็นประจำทุกปี เพื่อร่วมกันปรับปรุงและยกระดับการดำเนินงานของคู่ค้าธุรกิจตามมาตรฐานของไทยและสากล พร้อมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องถ่ายทอดความรู้และแบ่งปันประสบการณ์เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจ SME พัฒนาการดำเนินงานโดยคำนึงถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเด็นด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม แนวปฏิบัติที่ดีต่อแรงงาน การบริหารความเสี่ยงการทุจริตและคอร์รัปชั่น รวมทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัยอาหารตามมาตรฐานในระดับสากล