มนัญญา ดันทุเรียนสดไทยขึ้นชั้นผลไม้พรีเมี่ยมระดับโลก หวั่นคู่เเข่งยึดตลาดจีน

ทุเรียน

รมช.มนัญญา ชูทุเรียนไทยดีที่สุดในโลก นำกรมวิชาการเกษตรผนึกกำลังผู้ประกอบการส่งออก ดันทุเรียนไทยขึ้นชั้นผลไม้พรีเมี่ยมระดับโลก จี้ล้งคุมคุณภาพ ป้องกันสวมสิทธิ ขอเกษตรกรไทยรักษามาตรฐาน หลังต่างประเทศตีตื้นเริ่มส่งออกทุเรียนสดไปจีนได้แล้ว

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังลงพื้นที่ อ.หลังสวน อ.ชุมพร ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายมุ่งเน้นการผลิตทุเรียนคุณภาพเพื่อส่งออก ภายใต้มาตรการส่งออกทุเรียนไทยตามข้อตกลงทางพิธีสารไทย-จีน จึงได้ย้ำในที่ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุกว่า 100 ราย ว่าทุเรียนไทยเป็นทุเรียนที่ดีที่สุดในโลก ทั้งด้านรสชาติและคุณภาพ และขอยืนยันว่าประเทศไทย โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะดำเนินการอย่างเคร่งครัดเพื่อรักษาชื่อเสียง รักษาตลาดส่งออก และรักษามาตรฐานการผลิตของทุเรียนไทย สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคทั่วโลก

มนัญญา ไทยเศรษฐ์
มนัญญา ไทยเศรษฐ์

ทั้งนี้ ขอฝากไปยังผู้ประกอบการ และชาวสวน ในช่วงต้นฤดูที่ผลผลิตทุเรียนภาคใต้ออกสู่ตลาด ขอความร่วมมือทุกคนอย่าตัดทุเรียนอ่อนเพราะจะสร้างความเสียหายกับการส่งออกทุเรียนของไทยอย่างมาก กระทบกับความเชื่อมั่นในคุณภาพ และที่สำคัญระมัดระวังอย่าให้ใครมาสวมสิทธิทุเรียนของเกษตรกรไทยอย่างเด็ดขาด

“ในปี 2564 มีปริมาณการส่งออกทุเรียนทั้งประเทศ จำนวน 925,855 ตัน มูลค่า 119,160 ล้านบาท และมีแนวโน้มการเติบโตของพื้นที่การผลิตและพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นทุกปี จึงขอย้ำต่อผู้ประกอบการส่งออกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร พร้อมให้คำแนะนำและบูรณาการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อรักษาชื่อเสียงและมาตรฐานของทุเรียนไทยที่ส่งออกไปทั่วโลก”

มนัญญา ไทยเศรษฐ์

ดังนั้น ทุกมาตรการที่กรมวิชาการเกษตรกำหนดออกมานั้น นอกจากมาตรการการส่งเสริมและการกำกับตามระเบียบที่กรมรับผิดชอบแล้ว ยังเป็นมาตรการที่มาจากการหารือกับประเทศคู่ค้าที่กำหนดร่วมกันอีกด้วย จึงขอฝากว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกันยกระดับมาตรฐานโรงคัดบรรจุทุเรียนสดเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะด้านสุขอนามัยพืชตามพิธีสารไทย-จีน อย่างเคร่งครัด รมช.เกษตรฯกล่าว

ทั้งนี้ ขอให้เกษตรกรชาวสวนเร่งดำเนินการขอขึ้นทะเบียนแปลง GAP เพื่อยกระดับสวนทุเรียน โดยกรมวิชาการเกษตรได้จัดรถ “GAP Mobile เคลื่อนที่” ลงไปทุกพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกรและลดระยะเวลาในการเดินทาง เป็นการยกระดับคุณภาพผลผลิตของทุเรียนไทย ซึ่งเป็นผลไม้ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรได้จัดกิจกรรม “GAP Mobile เคลื่อนที่” เพื่อเร่งดำเนินการให้บริการขึ้นทะเบียน หรือต่ออายุสวน GAP ให้แก่เกษตรกร ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนแปลงทุเรียนที่ขึ้นทะเบียน GAP ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่ของกรมวิชาการเกษตร และพร้อมส่งออกไปจีนแล้ว จำนวน 26,823 แปลง และมีโรงคัดบรรจุทุเรียนสดที่พร้อมรวบรวมและคัดบรรจุแล้ว จำนวน 490 โรงคัดบรรจุ ทั้งนี้ คาดว่าตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป จะมีผลผลิตทุเรียนในภาคใต้จำนวน 120,000 ตัน โดยเป็นทุเรียนในพื้นที่ จ.ชุมพร 80,000 ตัน ซึ่งกรมวิชาการเกษตรพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบคุณภาพ และออกใบรับรองสุขอนามัยพืชเพื่อส่งออกไปจีน

“สถานการณ์ปัจจุบัน การส่งออกทุเรียนสดไทยไปจีนนั้นมิได้มีประเทศไทยเพียงประเทศเดียวแล้ว แต่มีประเทศอื่น ๆ ที่สามารถส่งออกทุเรียนสดได้แล้ว ดังนั้น เกษตรกร ผู้ประกอบการ และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันสร้างจุดเด่นและความแตกต่าง และเน้นย้ำมาตรฐานและคุณภาพทุเรียนไทย


โดยต้องไม่มีทุเรียนอ่อนหรือทุเรียนด้อยคุณภาพส่งออกไปเด็ดขาด ต้องเสริมสร้างแนวคิดและผลักดันเอกลักษณ์ ‘ผลไม้ไทย ผลไม้คุณภาพ’ (Premium Thai Fruits) เพื่อช่วยกันสร้างความเชื่อถือ และความมั่นใจในผลไม้หรือทุเรียนที่ส่งออกมาจากเกษตรกรไทย ทั้งนี้ เพื่อภาพลักษณ์ผลไม้ไทย ผลไม้ที่มีคุณภาพในตลาดส่งออกอย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าว