ราคาน้ำมันดิบ (30 พ.ย. 65) ได้แรงหนุน จีนประกาศเร่งอัตราการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ

ราคาน้ำมันดิบ
Photo : Pixabay

ราคาน้ำมันดิบได้แรงหนุน หลังจีนประกาศเร่งอัตราการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุ ขณะที่ตลาดจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปคในวันที่ 4 ธ.ค. 65 นี้

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบได้แรงหนุน หลังสำนักงานสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ประกาศจะเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุมากขึ้น เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในจีน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 40,000 รายในวันที่ 27 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ทำให้จีนยังคงต้องใช้มาตรการคุมเข้มตามนโยบาย zero COVID ที่จีนใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดมาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ส่งผลให้เกิดการประท้วงของผู้คนต่อนโยบายดังกล่าว กดดันราคาน้ำมันดิบในช่วงที่ผ่านมา

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 29 พ.ย. 2565 อยู่ที่ 78.20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.96 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 83.03 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.16 เหรียญสหรัฐ

หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานสต๊อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 25 พ.ย. 65 ปรับลดลง 7.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นราว 2.9 ล้านบาร์เรล ด้านสต๊อกน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 4.0 ล้านบาร์เรล

ตลาดจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปคในวันที่ 4 ธ.ค. 65 นี้ โดยตลาดคาดว่าทางกลุ่มอาจมีมติปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม เพื่อรักษาสมดุลของตลาด และพยุงราคาน้ำมันที่ถูกกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนและภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่ทางกลุ่มยืนยันก่อนหน้านี้ว่ายังคงแผนเดิมในการปรับลดกำลังการผลิตที่ 2.0 ล้านบาร์เรลของมติการประชุมที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากโควตาการส่งออกของจีน ขณะที่ตลาดได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย. 65

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากโควตาการส่งออกของจีน ขณะที่ค่าขนส่งที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นส่งผลกดดันการซื้อขายน้ำมันดีเซลระหว่างภูมิภาค