ประวิตร สั่งตั้งวอร์รูมน้ำภาคใต้ หลังประเมินฝนตกหนักช่วง 3-5 ธ.ค.นี้

กอนช.

“พล.อ.ประวิตร” สั่งเปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ ภาคใต้ จ.สุราษฏร์ธานี ภายใต้ กอนช. เตรียมรับมือฝนหนักช่วง 3 – 5 ธ.ค.นี้ มอบ สทนช.เชื่อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ ป้องกัน บรรเทาผลกระทบ ระดมเครื่องจักร เครื่องมือ กำลังคน พร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนักตลอดเดือนธันวาคมนี้ล่วงหน้า ตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 65

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ และประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ครั้งที่ 1/2565 ว่า

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ ซึ่งที่ผ่านมาได้เน้นย้ำพร้อมมอบหมายให้ สทนช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จุดเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อซักซ้อมหน่วยงานในการเร่งปฏิบัติการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเข้มข้น

รวมถึงได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมให้แก่ประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมทั้ง ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว รวมทั้งเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการมวลน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

กอนช.

ทั้งนี้ ตามที่ กอนช.ได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างมากจากฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้ และคาดการณ์ว่าจะมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมนี้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ขึ้น (ลงวันที่ 29 พ.ย.65)

โดยได้มอบหมายให้ สทนช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กอนช. จัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าฯ ภาคใต้ เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบริหารจัดการน้ำและเผชิญเหตุในเชิงป้องกัน ทั้งในส่วนกลางและหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ติดตาม วิเคราะห์ คาดการณ์ฝนรวมถึงพายุที่ยังมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงสถานการณ์น้ำ พร้อมแจ้งเตือน รวมถึงต้องเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ แผนเผชิญเหตุ เพื่อบริหารจัดการน้ำ โดยแบ่งการทำงานเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

ส่วนอำนวยการ ส่วนปฏิบัติการ ส่วนสนับสนุน และส่วนประชาสัมพันธ์ โดยทั้ง 4 กลุ่มจะเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันโดยประชุมติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าสถานการณ์ฝนตกหนักจะเข้าสู่ภาวะปกติ

“การประชุมวันนี้ทุกหน่วยงานได้รับทราบองค์ประกอบคณะทำงานฯ และอำนาจหน้าที่ รวมทั้ง เตรียมการปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อบริหารจัดการสถานการณ์น้ำในพื้นที่ และช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 3 – 5 ธ.ค.นี้ กอนช.ประเมินว่า บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น

ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ตามประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 55/2565 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง รวมถึงเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีแนวโน้มปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve)

รวมทั้งอ่างฯ ขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำด้วย” นายสุรสีห์ กล่าว