ราคาน้ำมันดิบ (16 ม.ค. 66) ปรับเพิ่ม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

ราคาน้ำมันดิบ
Photo : Pixabay

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และอุปสงค์จากจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

วันที่ 16 มกราคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 7 และนับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบสัปดาห์นับตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. 65 หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยในเดือน ธ.ค. 65 ปรับตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอตัวลงในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 66

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 13 ม.ค. 2566 อยู่ที่ 79.86 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.47 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 85.28 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.25 เหรียญสหรัฐ

ความต้องการใช้น้ำมันของจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และกลับมาเปิดอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. เป็นต้นมา ส่งผลให้จีนเพิ่มการซื้อน้ำมันดิบมากขึ้นเพื่อรองรับการเดินทางในประเทศทั้งทางรถและทางอากาศที่เพิ่มขึ้น

ปริมาณการผลิตของสหรัฐ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 13 ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 3 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 775 แท่น

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดูไบ หลังอุปสงค์ภูมิภาคยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ราคามีแนวโน้มได้รับแรงกดดัน หลังโรงกลั่นเวียดนามเตรียมเปิดดำเนินการผลิตหน่วยผลิตน้ำมันเบนซินอีกครั้งในวันที่ 14 ม.ค. หลังมีการปิดดำเนินการไปก่อนหน้านี้

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ในภูมิภาคยังทรงตัวในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ราคามีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน