ปาล์มราคาขึ้น 5 บาท/กก. โรงสกัด 131 โรงรับซื้อปกติ

ปาล์ม

“พาณิชย์” เผยปาล์มน้ำมันกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โรงสกัดเดินเครื่องเต็มสูบทั้ง 131 โรงงาน ส่งราคาขยับเกิน 5 บาท/กิโลกรัม

วันที่ 19 มกราคม 2566 นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ปาล์มน้ำมันล่าสุด ว่าขณะนี้ปัญหาปาล์มน้ำมันที่เกิดขึ้นใน 6 จังหวัดภาคใต้ จากปัญหาผลผลิตตกค้าง โรงสกัดน้ำมันปาล์มหยุดเดินเครื่อง ทำให้ผลปาล์มเข้าโรงงานไม่ได้ช่วงที่ผ่านมา ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทุกโรงและลานเททุกแห่งได้เปิดดำเนินการตามปกติ รับซื้อผลปาล์มจากแหล่งปลูกเข้าสู่โรงงานสกัดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาปาล์มคุณภาพขณะนี้ได้ขยับขึ้นมาเกิน 5 บาท

ทั้งนี้ กรมได้เร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว จากนั้นวันที่ 12 มกราคม 2566 ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมประชุมหารือกับสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ผู้ประกอบลานเทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางออกร่วมกัน พร้อมสั่งการให้โรงงานสกัดน้ำมันที่หยุดทำการกลับมาเดินเครื่องตามปกติในทันที ยกเว้นบางโรงที่ปิดเพื่อซ่อมตามวงรอบประจำปี โดยล่าสุดโรงงานสกัดทั้งหมด 131 โรงได้เปิดเดินเครื่องและดำเนินการรับซื้อทั้งหมดแล้ว

อุดม ศรีสมทรง
อุดม ศรีสมทรง

“วันนี้ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีการปัญหารอคิวหน้าโรงงาน ไม่มีปัญหาลานเทชะลอการรับซื้อ ขอให้พี่น้องชาวสวนปาล์มสบายใจสามารถตัดปาล์มส่งขายได้ตามปกติ ส่วนราคารับซื้อหน้าโรงงานก็ขยับสูงขึ้นเกิน 5 บาทไปแล้ว ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 4.50-5.20 บาทสำหรับปาล์มคุณภาพหรือผลปาล์มสุก”

ย้ำว่าไม่อยากให้เกษตรกรมุ่งไปที่ราคาเพียงอย่างเดียวแต่ให้มามองต้นทางกระบวนการผลิตปาล์มคุณภาพด้วย ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อราคา นอกจากนี้จะต้องหาวิธีลดต้นทุนการผลิตในด้านต่าง ๆ เช่น ทำอย่างไรให้ลดการใช้ปุ๋ยเคมีลง แต่ไม่ส่งผลต่อคุณภาพผลผลิต เช่น การเพิ่มอินทรียวัตถุในดินจากทางใบปาล์ม ซึ่งจะช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ระดับหนึ่ง เป็นต้น

ปาล์ม

นอกจากนี้ เกษตรกรยังต้องหมั่นดูแลต้นปาล์มโดยการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากปาล์มเป็นพืชที่ต้องการน้ำในปริมาณมาก ที่สำคัญต้องตัดปาล์มสุกเท่านั้น จะได้น้ำหนักมากและจำหน่ายได้ในราคาสูง สำหรับในส่วนของผู้ประกอบการนั้นจะต้องรับซื้อผลปาล์มคุณภาพที่ซีพีโอ (CPO) 18% ขึ้นไปและปฏิเสธรับซื้อปาล์มอ่อนในทุกกรณี

อย่างไรก็ตาม กรมยังได้ประสานฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าทั้งน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มเมล็ดในและเข้มงวดการขนย้าย หากพบมีการลักลอบนำเข้าหรือลักลอบขนย้ายได้กำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด โดยมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนกรณีกดราคารับซื้อหรือหยุดรับซื้อโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรจะมีโทษฐานทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคามีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีเบาะแสหรือพบพฤติกรรมดังกล่าว แจ้งได้ที่สายด่วน 1569