กลุ่ม ปตท.เปิดตัวอาหารเสริม โปรเบต้า-กลูแคนตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้าน

อินโนบิก

อินโนบิกรุก ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพาณิชย์เพิ่มความสามารถแข่งขันเวทีโลก ผนึกสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ โปรเบต้า-กลูแคน พลัส-โพรไบโอติกส์ จีดี เผยพัฒนาโดยนักวิจัยไทยครั้งแรก ที่เหมาะกับคนไทย ลุยเจาะตลาดอาหารเสริม 7.5 หมื่นล้าน หวังยอดขายปีแรก 2566 ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท พร้อมพาแบรนด์โตตลาดอาเซียน

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา อินโนบิก (เอเซีย) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ “Leading Life Science Company in Region by Bringing Best Science and Enhancing Quality of Life”

คือ การดำเนินธุรกิจด้วยเป้าหมายการเป็นบริษัทชั้นนำด้านชีววิทยาศาสตร์ในภูมิภาค ส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยอินโนบิก (เอเซีย) ได้จัดตั้ง บริษัท อินโนบิก นูทริชั่น จำกัด เพื่อพัฒนาโภชนาการทางการแพทย์ (Medical Nutrition) หรืออาหารสำหรับผู้ป่วย และอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ หรือโภชนเภสัช (Nutraceutical) ตลอดจนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ ๆ ที่คิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญของไทย

ล่าสุดบริษัทได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวใหม่เป็นครั้งแรกถึง 2 ผลิตภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑ์แรก ร่วมดำเนินงานกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัว อินโนบิก โปร เบต้า-กลูแคน พลัส (Innobic Pro Beta-Glucan+)

ที่นำประโยชน์จาก เบต้า-กลูแคน พลัส ด้วยโพรโพลิส ซัลโฟราเฟนในผงบร็อกโคลี่ วิตามิน ดี 3 วิตามิน ซี และเควอซิติน และผลิตภัณฑ์ อินโนบิก โพรไบโอติกส์ จีดี (Innobic Probiotics GD) ที่ได้ดำเนินงานร่วมกับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) คัดเลือกเชื้อโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ไทยที่พัฒนาโดยนักวิจัยไทยครั้งแรก เพื่อให้เหมาะกับคนไทย

โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์จะช่วยเสริมสร้างสมดุลในการใช้ชีวิตง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมจำหน่ายที่ร้าน Lab Pharmacy ทุกสาขาและร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ Innobic Official Shop บนแพลตฟอร์ม Shopee ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาท

อีกทั้งมีแผนขยายตลาดในกลุ่มสินค้าอาหารสำหรับผู้ป่วยและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวงการสุขภาพจากนักวิจัยไทย นายบุรณิณกล่าว

นายบุรณิน กล่าวอีกว่า อินโนบิก (เอเซีย) จัดตั้งขึ้นมาในช่วย 2 ปีที่ผ่านมา จากทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ ขยับขยายมาถึง 13,000 ล้านบาท โดยอินโนบิกก็ยังคงมุ่งมั่นในการทำธุรกิจ 3 เรื่องหลัก คือ 1. กลุ่มธุรกิจยา 2. เทคโนโลยีทางการแพทย์ และ 3. ธุรกิจด้านโภชนาการ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจยาขณะนี้ถือว่าประสบความสำเร็จค่อนข้างดี จากการไปลงทุนถือหุ้นใน บริษัท โลตัส ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (Lotus Pharmaceutical) ตามสัดส่วนการถือหุ้น 37% หรือคิดเป็นประมาณ 6,000 ล้านบาท ที่ใต้หวันซึ่งขณะนี้มีการขายยาทั่วโลก โดยในเอเชียมีการขายอยู่ในระดับ 6-7% น้อยกว่ายุโรปและอเมริกา

ปตท.เปิดตัวอาหารเสริม โปรเบต้า-กลูแคน

“ยาที่ขายถือเป็นยาเกี่ยวกับการรักษามะเร็ง เป็นยาสามัญ ปรับตัวได้ดีโดยปี 2565 โลตัสฯ มียอดขายที่ 15,000 ล้านบาท กำไรเกือบ 2,000 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการทางธุรกิจยาดีมากทำให้อินโนบิกปี 2565 มีกำไรแล้ว โดยอินโนบิก จึงตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ที่ประมาณ 7 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน”

สำหรับรายได้ของอินโนบิกจะมาจากสองส่วน คือ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ของอินโนบิกในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 480 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้นในโลตัสฯ ที่ในปี 2565 ที่ผ่านมา อินโนบิกมีกำไรแล้วหลังจากก่อตั้งบริษัทมา 2 ปี และในปีนี้คาดว่าผลประกอบการของอินโนบิกจะเติบโตขึ้น จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม

สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งโรงงานผลิตยาต้านมะเร็งที่ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) คาดว่าโรงงานผลิตสารตั้งต้นยา(API) จะมีข้อสรุปด้านการลงทุนภายในไตรมาส 1/2566 คาดว่าว่าจะใช้เงินลงทุนในเฟสแรกประมาณ 1,300 ล้านบาท และจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปีในการก่อสร้าง และจะต้องใช้ระยะเวลาในการขึ้นทะเบียนยา คาดว่าจะสามารถผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบสารตั้งต้นยาได้ประมาณปี 2570

“การตั้งโรงงาน API ที่ผลิตสารตั้งต้นทางยาที่ร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรมน่าจะได้ข้อสรุปในการจัดตั้งบริษัทและโรงงาน เบื้องต้นจะตั้งในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรือพื้นที่ใกล้ ๆ กับกรุงเทพมหานคร เช่น อยุธยา ที่ใกล้กับโรงานยา นอกจากนี้ ในส่วนของโรงงานผลิตยารักษามะเร็ง ที่อินโนบิกร่วมกับ อภ. ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบเป็นการร่วมลงทุนจากเดิมที่จะสร้างโรงงานให้ อภ.เช่า โดยจะมีกลุ่มโลตัสเข้าร่วมลงทุนด้วย โดยสัดส่วนการถือหุ้นยังไม่สรุป คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้

นายกิตติณัฐ ศรภิญญา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินโนบิก นูทริชั่น จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ 2566 บริษัทตั้งเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์ละไม่ต่ำกว่า 10,000-20,000 กระปุก โดยราคาจำหน่ายเบื้องต้นกระปุกละ 750 บาท (ราคากลาง) โดยบริษัทมองว่า เทรนด์สุขภาพมาแรงเฉพาะตลาดอาหารเสริมในประเทศเติบโตอย่างมาก มูลค่ากว่า 75,000 ล้านบาท

ขณะที่เฉพาะตลาดโพรไบโอติกส์ไม่รวมช่องทางออนไลน์ มูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนแค่ 7% เท่านั้น ดังนั้นตลาดยังมีช่องว่างอีกมาก และคาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดี โดยอนาคตมีแผนจะขยายไปยังตลาดอาเซียนอีกด้วย

“หากดูอัตราการเติบโตในตลาดอาหารเสริม โพรไบโอติกส์มีสัดส่วนแค่ 7% เทรนด์สุขภาพทำให้ผู้บริโภคให้การตอบรับอย่างดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ต่างประเทศ แต่การวิจัยโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ไทยนั้นหายาก ที่จะเหมาะกับลำไส้คนไทย ข้อดีเหล่านี้จะเป็นจุดขายที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่พัฒนาโดยคนไทยเพื่อตอบโจทย์คนไทยในราคาจับต้องได้”

ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศ (วว.) กล่าวว่า งานวิจัยชิ้นนี้ใช้เวลา 2 ปี กว่าจะได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์สำหรับระบบทางเดินอาหารนี้ให้กับ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปัจจุบันบริษัท อินโนบิก ปีนี้ พร้อมแล้วที่จะจำหน่ายเชิงพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ “Innobic Probiotics GD” โดย วว. มีโรงงานอยู่ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีกำลังผลิต 2,800 ลิตร ซึ่งมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะได้รับการตอบรับดีจึงมีแผนขยายโรงงานและเพิ่มกำลังผลิตถึง 1 แสนลิตร ไว้รองรับ