
ซีพีเอฟ เปิดแผนปี 2566 เตรียมนำผลิตภัณฑ์แพลนท์ เบสต์ (Plant-based) ขอรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากอบก. เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ติดฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำมากกว่า 800 รายการ ควบคู่กับการมีส่วนร่วมบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ขับเคลื่อนสู่เป้าหมายสร้างอาหารมั่นคง และดำเนินธุรกิจบนเส้นทางสีเขียวอย่างยั่งยืน
วันที่ 1 มีนาคม 2566 นางสาวอรพรรณ มั่งมีศรี ผู้อำนวยการสำนักระบบมาตรฐานสากลบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทฯ มีแผนนำผลิตภัณฑ์กลุ่มแพลนท์ เบสต์ (Plant-based) ขอรับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก(องค์การมหาชน) หรือ อบก.
- บางกอกไพรด์ 2023 ชาว LGBTQ+ ฉลอง Pride Month พิธาประกาศนำ “สมรสเท่าเทียม” เข้าสภา
- วันหยุดเดือนมิถุนายน 2566 เช็กวันหยุดราชการ วันหยุดชดเชย วันสำคัญ
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 มิ.ย.นี้ ใครมีสิทธิรับวงเงินค่าซื้อสินค้า 900 บาท
ก่อนหน้านี้ในปี 2565 มีผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และฉลากลดโลกร้อนจากอบก. ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไข่ไก่สด 25 รายการ อาทิ ไข่ไก่เคจฟรี และไข่ไก่สดปลอดสารขนาดบรรจุต่างๆ ซึ่งประมาณการว่าผลิตภัณฑ์ไข่ไก่สดสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 617,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ทั้งนี้ ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการประเมินและได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จาก อบก. มากกว่า 800 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ และผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำที่ได้รับรองฉลากลดโลกร้อน จำนวนกว่า 50 รายการ อาทิ อาหารไก่เนื้อ ไก่มีชีวิต เป็ดมีชีวิต สุกรขุน เนื้อไก่สด เนื้อเป็ดสด เนื้อหมูสด และไข่ไก่สด ช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม 2.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
“บริษัท ฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต ใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป ”
โดยมีการพัฒนากระบวนการผลิตที่คาร์บอนต่ำ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ได้แก่ กระบวนการผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ และการแปรรูปเนื้อสัตว์ อาทิ ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สด ผลิตภัณฑ์เนื้อหมูสด และในปีนี้ จะนำผลิตภัณฑ์แพลนท์ เบสต์ อาทิ นักเก็ต เนื้อบดจากพืช และข้าวกะเพราเนื้อจากพืช ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ที่มีการใช้บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขอรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์
นอกจากนี้บริษัทยังได้ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสิทธิภาพตลอดกระบวนการผลิต ตั้งแต่การวิจัยและการพัฒนาอาหารสัตว์ให้มีโภชนาการที่เหมาะสมกับความต้องการในการเติบโตของแต่ละช่วงวัย การส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิต ทำให้ตลอดกระบวนการผลิตและการได้มาซึ่งวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯได้เริ่มประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2552 ด้วยการนำหลักการตามมาตรฐานสากลที่ใช้ในการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle Assessment) ตามมาตรฐานสากล ISO 14040 ISO 14044 และ ISO 14067 มาใช้
ทั้งนี้ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นผลิต”ผลิตภัณฑ์สีเขียว” (Green Product)ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากสิ่งแวดล้อม เช่น ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ฉลากลดโลกร้อน ฯลฯ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์สีเขียวจากปัจจุบันอยู่ที่ 34 % เพิ่มเป็น 40 % ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท ภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) ซึ่งการเพิ่มรายได้สีเขียวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อม เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย สู่ผู้บริโภค