ดาวเทียมพบจุดความร้อนของไทยวานนี้ 1,274 จุด ส่วนค่าฝุ่น PM 2.5 เช้านี้ยังคงเกินค่ามาตรฐานกว่า 40 จังหวัด เชียงรายยังคงนำกว่า 100 ไมโครกรัม ล่าสุด 7 วันสงกรานต์ไฟป่าเผาวอด 12 ล้านไร่ วันที่ 17-23 เมษายน 2566
วันที่ 18 เมษายน 2566 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดเผยว่า ข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 17 เมษายน 2566 ไทยพบจุดความร้อน 1,274 จุด ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างพม่ายังครองแชมป์อันดับหนึ่งอยู่ที่ 4,489 จุด, สปป.ลาว 1,673 จุด, เวียดนาม 319 จุด, กัมพูชา 28 จุด และมาเลเซีย 17 จุด
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- ประวัติ ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกฯคนใหม่สิงคโปร์ เขาเป็นใคร มาจากไหน
- ธุรกิจถอยสิ้นยุคกัญชาเสรี จ่อปิดหมื่นร้าน-สินค้าโบกมือลา
ข้อมูลจากดาวเทียมระบุอีกว่า จุดความร้อนในประเทศไทย ยังคงพบในพื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุด 539 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 479 จุด, พื้นที่เกษตร 141 จุด, พื้นที่เขต ส.ป.ก. 69 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่น ๆ 43 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 3 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ #เชียงใหม่ 272 จุด, #เชียงราย 265 จุด และ #แม่ฮ่องสอน 88 จุด
พร้อมกันนี้ ข้อมูลการวิเคราะห์จากดาวเทียมพบพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่าสูงในพื้นที่ป่ากว่า 12 ล้านไร่ ในช่วงวันที่ 17-23 เมษายน 2566 ใน 6 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน ลำปาง เพชรบูรณ์ และน่าน โดยเฉพาะพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติ ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากช่วงนี้หลายจังหวัดสิ้นสุดระยะเวลาการประกาศห้ามเผาแล้ว
สำหรับพื้นที่เสี่ยงอีก 11 จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังด้วยเช่นกัน ได้แก่ นครสวรรค์ เชียงราย พิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย อุทัยธานี แพร่ พะเยา ลำพูน พิจิตร และอุตรดิตถ์
ทั้งนี้ การคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงดังกล่าว จะเป็นข้อมูลสำคัญให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องโดยตรง ผู้นำชุมชน กลุ่มอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้เข้าไปตรวจสอบและวางแผนป้องกัน เพื่อบรรเทาและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป
ในขณะที่สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ของวันนี้เวลา 10.00 น. ยังคงเกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับสีส้มไปจนถึงสีแดงในหลายพื้นที่ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงราย มีค่าฝุ่นอันดับหนึ่งอยู่ 173 ไมโครกรัม รองลงมาคือเชียงใหม่ 135 ไมโครกรัม และแม่ฮ่องสอน 132 ไมโครกรัม
ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย และงดกิจกรรมภายนอกอาคารสถานที่เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่จะตามมา ในขณะที่กรุงเทพฯ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่เริ่มจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทยมีลักษณะเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการพัดและการเคลื่อนตัวของกระแสลมในพื้นที่เป็นสำคัญ
ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่าง ๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรง GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่
ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th หรือติดตามข้อมูลจาก https://fire.gistda.or.th/dashboard.html และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชั่น “#เช็กฝุ่น”