พาณิชย์ ห้ามขึ้นราคา “น้ำดื่ม-เครื่องดื่ม” จากกระแสปรับขึ้นค่าน้ำประปา

น้ำดื่ม

พาณิชย์ ห้ามขึ้นราคา “น้ำดื่ม-เครื่องดื่ม” หากการประปาขึ้นค่าน้ำ แจงน้ำดื่มผลิตจากน้ำบาดาล แม้ว่าน้ำดื่มบรรจุขวด ไม่ใช่สินค้าควบคุม แต่ถือว่าเป็นสินค้าที่ติดตามราคาอย่างใกล้ชิด

วันที่ 26 เมษายน 2566 นายจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกระแสการปรับค่าน้ำที่อาจจะปรับขึ้นค่าน้ำ 15-20% โดยบจะมีผลกระทบต่อเครื่องดื่มหรือน้ำดื่มหรือไม่นั้นว่า จากการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนสินค้าน้ำดื่มบรรจุขวด หากมีการปรับโครงการสร้างราคาน้ำประปา จะมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตน้ำไม่มาก เนื่องจากน้ำดื่มส่วนใหญ่ผลิตมาจากน้ำบาดาลไม่ใช่น้ำประปา จึงเป็นต้นทุนคนละส่วนกัน

ส่วนสินค้าในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม พบว่ามีสัดส่วนต้นทุนน้ำดิบในการผลิตน้อยเช่นกัน จึงไม่มีเหตุผลที่ผู้ประกอบการที่จะขอปรับขึ้นราคาสินค้า

ส่วนสินค้าในกลุ่มเม็ดพลาสติก ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีการใช้น้ำดิบเป็นต้นทุนนั้น จากการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนการผลิต พบอุตสาหกรรมพลาสติกใช้น้ำประปาในการหล่อเย็นเครื่องจักรในขบวนการผลิต คิดเป็นสัดส่วนต้นทุนน้ำดิบน้อยมาก รวมทั้งระบบน้ำหล่อเย็นยังเป็นการใช้น้ำแบบหมุนเวียนเพื่อรักษาอุณหภูมิเครื่องจักร ไม่ได้ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งหรือหมดไป

“แม้ว่าการประปาจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำประปาจริงอีก 15-20% แต่จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิค สินค้าน้ำดื่ม และเครื่องดื่มน้อยมาก จึงไม่มีนัยสำคัญ ที่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการจะมาใช้เป็นเหตุผลในการยื่นขอปรับขึ้นราคาสินค้า โดยในส่วนของน้ำดื่มบรรจุขวดนั้น ไม่ใช่สินค้าที่อยู่ในรายการควบคุม แต่เป็นสินค้าที่กรมติดตามราคาอย่างใกล้ชิด”