ไอ-เทล เผย Q1 ปี’66 ยอดขาย 3,586.8 ล้าน ลงทุนขยายธุรกิจ 2.1 พันล้าน

สินค้าอาหารสัตว์ของไอ-เทล

ไอ-เทล เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 ยอดขาย 3,586.8 ล้านบาท หดตัว 16.7% เหตุคู่ค้าระบายสต๊อก แต่ยังคงกำไรขั้นต้น 17.4% เดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจกว่า 2,100 ล้าน

วันที่ 27 เมษายน 2566 นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี ด้วยยอดขาย 3,586.8 ล้านบาท ลดลง 16.7% เมื่อเปรียบเทียบกับงบการเงินเสมือนที่สะท้อนเฉพาะธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเท่านั้นของช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า

สาเหตุหลักเป็นผลมาจากการระบายสินค้าคงคลังของคู่ค้าในสหรัฐอเมริกาและยุโรป สำหรับกำไรสุทธิในไตรมาสแรกอยู่ที่ 425.2 ล้านบาท เมื่อเทียบกำไรสุทธิจากงบการเงินเสมือนของช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 ที่ระดับ 908.1 ล้านบาท เกิดจากยอดขายที่ลดลง สัดส่วนการขายสินค้าพรีเมี่ยมน้อยลง และต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 17.4%

พิชิตชัย วงศ์ปิยะ
พิชิตชัย วงศ์ปิยะ

“ในปีที่ผ่านมาภาคธุรกิจต้องเผชิญกับความติดขัดด้านการขนส่งสินค้าทั่วโลก แต่สถานการณ์ดังกล่าวได้คลี่คลายลง ทำให้บริษัทมองว่าการระบายสินค้าคงคลังของลูกค้าในช่วงต้นปี 2566 เป็นปัจจัยระยะสั้นและมีสัญญาณที่ดีในไตรมาสถัดไป และคาดว่าการจัดการสินค้าคงคลังจะกลับมาสู่สภาวะปกติในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี”

นอกจากนี้ เรายังได้วางกลยุทธ์ในการเติบโตของธุรกิจและมุ่งมั่นขยายธุรกิจกับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่ เราได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท ทั้งช่องทางอีคอมเมิร์ซ และประเภทสินค้าสั่งผลิตภายใต้แบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส ที่มีแผนในการส่งมอบสินค้าในไตรมาสที่ 2 นี้

อีกทั้งสินค้าชนิดพรีเมี่ยมได้เริ่มทยอยกลับมา และยังมีลูกค้ารายใหม่และรายใหญ่เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย ผมมั่นใจว่าบริษัทจะทำผลงานได้ดีในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งในแง่ของยอดขายและความสามารถในการทำกำไร

ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น ยังได้เผยกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจไปยังตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มีการสั่งผลิตภายใต้แบรนด์ของซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ เปิดตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง เช่น ประเทศจีน ผ่านความร่วมมือกับหนานจิง เจียเป่ย เพ็ทแคร์ โปรดักส์ ที่ได้ลงนามในความร่วมมือเมื่อเร็ว ๆ นี้

ITC เครื่องจักรอัตโนมัติ

โดยมีแผนนำส่งสินค้าลอตแรกภายในไตรมาส 2 ของปี รวมถึงการขยายธุรกิจในส่วนของขนมทานเล่นของสัตว์เลี้ยง บริษัทยังได้มีแผนที่จะเปิดตัวศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารแมว หรือ i-Cattery ที่ตั้งอยู่ ณ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา ในเดือนพฤษภาคมนี้อีกด้วย

“สำหรับการลงทุน บริษัทยังคงเดินหน้าแผนการลงทุนขยายธุรกิจกว่า 2.1 พันล้านในปีนี้ และกำลังดำเนินการก่อสร้างโรงงานใหม่ในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตอาหารเปียกและขนมทานเล่นของสัตว์เลี้ยงขึ้นอีก 18.7% และในโรงงานใหม่นี้จะมีไลน์บรรจุหีบห่อแบบอัตโนมัติ คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ภายในปีนี้

บริษัทยังคงลงทุนในโครงการต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ได้แก่ คลังสินค้าอัตโนมัติในโรงงานที่จังหวัดสมุทรสาครและสงขลา เครื่องจักรสำหรับโรงงานต้นแบบ รวมถึงโครงการวิจัยและพัฒนาและนวัตกรรม” นายพิชิตชัยกล่าว

สำหรับไตรมาสแรกของปี 2566 ไอ-เทลมีสัดส่วนของยอดขายในภูมิภาคอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ อยู่ที่ 50.3% ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่เอเชียและโอเชียเนียอยู่ที่ 36.3% และยุโรปอยู่ที่ 13.4% ทั้งนี้ ตลาดที่มีการเติบโตสูง ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น จีน และไทย ในส่วนของยอดขายแบ่งตามประเภทของสินค้าหลัก 3 ประเภท ได้แก่ อาหารแมว 66.9% อาหารสุนัข 16.6% ขนมทานเล่นของสัตว์เลี้ยง 13.9% และธุรกิจอื่น ๆ อีก 2.6%