SPRC ประกาศไตรมาส 1 ปี 2566 กำไร 37 ล้านเหรียญ

SPRC

SPRC ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 กำไร 37 ล้านเหรียญ จากค่าการกลั่นที่สูงขึ้น ไม่หวั่นปัจจัยราคาน้ำมันดิบดูไบลด ยังมั่นใจท่องเที่ยวหนุนดีมานด์เพิ่ม

วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 มร.โรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) เปิดเผยว่าในไตรมาสที่ 1/2566 บริษัทมีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 37 ล้านเหรียญสหรัฐ

มีปัจจัยเชิงบวกจากค่าการกลั่นที่สูงขึ้น โดยผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งขาดทุนสุทธิที่ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นผลมาจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันและการขาดทุนสต๊อกน้ำมันในช่วงเวลาดังกล่าว

สำหรับไตรมาสที่ 1/2566 นี้ มีค่าการกลั่นทางบัญชีอยู่ที่ 6.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สูงกว่า ในไตรมาสก่อน 1.77 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลและมีปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นอยู่ที่ร้อยละ 93 ของกำลังการกลั่นทั้งหมด

ค่าการกลั่นตลาดปรับตัวดีขึ้นจากในไตรมาสที่ 4/2565ที่ 5.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็น 6.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาสที่ 1/2566 เป็นผลจากค่าพรีเมี่ยมน้ำมันดิบที่ลดลงและส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินกับน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการจำกัดการส่งออกน้ำมันเบนซินจากประเทศจีนและอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูท่องเที่ยว

มร.โดบริค กล่าวว่า โครงการปรับปรุงผลกำไร (Bottom Line Improvement Program-BLIP) ของเราช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพน้ำมันดิบที่เข้ากลั่น กระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์

รวมถึงการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ขั้นกลาง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ SPRC มีค่าการกลั่นที่ดีขึ้นในไตรมาสแรก สิ่งเหล่านี้ทำให้เรามั่นใจว่าการดำเนินงานโดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพสูงสุดเช่นนี้จะสามารถมอบผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจแก่ผู้ถือหุ้นของเราได้

“แม้ว่า ในไตรมาสแรกของปี 2566 นี้ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบจะปรับตัวลง แต่การเปิดพรมแดนและการผ่อนคลายมาตรการการป้องกันโควิด-19 ของประเทศจีนทำให้มั่นใจว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี วิกฤตการณ์ของสถาบันการเงินที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ อาจก่อให้เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และอาจส่งผลต่อการบริโภคและลงทุนด้านน้ำมันได้”

SPRC ยังคงมองว่าอนาคตของภาคอุตสาหกรรมในระยะยาวมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น เราเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัว และความต้องการใช้น้ำมันจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรายังคงแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในอนาคต เพื่อที่จะสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น ตลอดช่วงแผนการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ (Turnaround & Inspection-T&I) ในปี 2568 นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการพัฒนาที่ยั่งยืน