ตั้งอุตรดิตถ์ศูนย์กลางส่งออกทุเรียนภาคเหนือ ใช้สูตร “จันทบุรีโมเดล”

ทุเรียน

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร สั่งขยายผล “จันทบุรีโมเดล” คุมเข้มทุเรียนภาคเหนือ ตั้งอุตรดิตถ์เป็นศูนย์กลาง  พร้อมมอบนโยบายห้ามสวมสิทธิ์ผลไม้ส่งออกทุกชนิด สั่งตรวจเข้มคุณภาพทุเรียนส่งออกต้องได้ทั้งคุณภาพและปลอดแมลงศัตรูพืช เผยมูลค่าส่งออกเฉพาะทุเรียนภาคตะวันออกทะลุแสนล้าน ดันไทยทะยานขึ้นสู่ทุเรียนพรีเมี่ยมที่ 1 ของโลก 

วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการควบคุมมาตรฐานส่งออกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง พร้อมมอบนโยบายกำชับให้สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 พร้อมศูนย์เครือข่ายในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์ 
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

ร่วมกันบูรณาการปฏิบัติงานรักษาคุณภาพมาตรฐานผลไม้ไทยตามนโยบาย premium Thai fruit โดยนำ “จันทบุรีโมเดล” ของสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 มาเป็นแนวทางการปฏิบัติงาน และเน้นย้ำตรวจสอบผลไม้ทุกชนิดทั้งส่งออกและนำเข้าต้องได้คุณภาพและปลอดจากแมลงศัตรูพืช รวมไปถึงตรวจสอบแหล่งที่มาของผลไม้ ห้ามมีการสวมสิทธิ์ผลไม้ทุกชนิดโดยเด็ดขาด

ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการเตรียมการส่งออกทุเรียนภาคเหนือ โดยส่งไม้ต่อจากจันทบุรี ตามโครงการ ทุเรียนไทย ทุเรียนคุณภาพ มุ่งสู่ทุเรียนพรีเมี่ยมที่ 1 ของโลก โดยมีจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นศูนย์กลาง

“ได้สั่งให้ขยายผลจันทบุรีโมเดลไปสู่พื้นที่ภาคเหนือตอนล่างซึ่งกำลังมีผลผลิตทุเรียนออกสู่ท้องตลาดในขณะนี้ พร้อมสร้างการรับรู้การแยกสีโรงคัดบรรจุเป็นสีเขียว เหลือง และแดง ให้ผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ เพื่อร่วมกันรักษาคุณภาพมาตรฐานทุเรียนไทย มั่นใจว่าในการประชุมเตรียมความพร้อมของ สวพ.2 จะนำความสำเร็จเข้ามาสู่ในเขตพื้นที่ภาคเหนือเช่นเดียวกับที่ประสบความสำเร็จในภาคตะวันออก”

ทุเรียน

สำหรับพื้นที่ปลูกทุเรียนภาคเหนือตอนล่างมีทั้งหมด 7 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร พิจิตร อุตรดิตถ์ ตาก  เพชรบูรณ์ สุโขทัย และพิษณุโลก โดยมีทั้งพันธุ์หมอนทอง พวงมณี หลงลับแล  กระดุม มูซังคิง และหลินลับแล มีพื้นที่ปลูกทุเรียนในเขตภาคเหนือตอนล่างได้รับการรับรอง GAP ทั้งหมด 9,492 ไร่  ปริมาณผลผลิตในปี 2566 รวมจำนวนประมาณ 10,717 ตัน

โดยจังหวัดอุตรดิตถ์ให้ผลผลิตมากที่สุดจำนวน 6,616 ตัน ทุเรียนที่ส่งออกไปประเทศจีนเป็นพันธุ์หมอนทอง 90 เปอร์เซ็นต์

สำหรับด่านปลายทางที่ส่งออกทุเรียนของจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้แก่ ด่านเชียงของ ด่านแหลมฉบัง ด่านลาดกระบัง ด่านนครพนม และด่านมุกดาหาร ล่าสุดเมื่อวันที่ 5-11 พฤษภาคม 2566 ได้ออกใบรับรองสุขอนามัยพืชสำหรับส่งออกทุเรียนสดไปแล้ว 318.6 ตัน มูลค่า 45.2 ล้านบาท

โดยในปี 2565 (3 มิ.ย.-5ต.ค. 65) จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ส่งออกทุเรียนไปจีนจำนวน 11,615 ตัน มูลค่า 1,207 ล้านบาท

ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 และเครือข่าย ร่วมกับสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร และด่านตรวจพืชที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมหารือมาตรการควบคุมมาตรฐานพืชส่งออกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง

เพื่อนำไปหารือระดับจังหวัดร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องออกประกาศและคำสั่งต่าง ๆ ระดับจังหวัดในการดำเนินการเพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกันกับ สวพ.6 เป็นการเตรียมความพร้อมส่งออกทุเรียนภาคเหนือในปี 2566

“จากการดำเนินการควบคุมคุณภาพและตรวจรับรองสุขอนามัยพืชการส่งออกทุเรียนในฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออกในปี 2566 อย่างเข้มงวด พร้อมกับได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ทำงานร่วมกับกรมวิชาการเกษตรอย่างใกล้ชิด เข้มข้น รักษาคุณภาพทุเรียนสำหรับส่งออกไปยังประเทศจีน ทำให้การส่งออกเป็นไปด้วยความราบรื่นในทุกเส้นทาง  พร้อมกับได้รับการชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบผลไม้ในภาคตะวันออก ซึ่งนำไปสู่ปริมาณการส่งออกที่มากถึง 6 แสนตัน มูลค่า ณ เวลานี้เกินแสนล้านไปแล้ว