คลื่นความร้อนดันเครื่องปรับอากาศไทยใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐพุ่ง

ส่งออกทางเรือ
PHOTO : PIXABAY

กรมการค้าต่างประเทศเผยสหรัฐนำเข้าชิ้นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศไทยสูง สอดรับกับคลื่นความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยไทยครองแชมป์อันดับ 1 ของประเทศผู้ส่งออกภายใต้ระบบ GSP มูลค่าการส่งออกเพิ่มสูง 126%

วันที่ 7 มิถุนายน 2566 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยสถิติการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ที่ไทยได้รับในปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช พบว่าสำหรับไตรมาสแรกของปี 2566 (ม.ค.-มี.ค 2566) มีมูลค่ารวม 819.59 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิสูงถึง 52.37%

รณรงค์ พูลพิพัฒน์
รณรงค์ พูลพิพัฒน์

โดยตลาดที่ไทยมีการใช้สิทธิ GSP ส่งออกและขยายตัวได้ดีมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือสหรัฐ มีมูลค่าการใช้สิทธิ 759.29 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 92.64% ของมูลค่าการส่งออกรวมที่ใช้สิทธิ GSP ซึ่งสินค้าครองแชมป์อันดับ 1 ยังคงเป็นชิ้นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ โดยมีมูลค่าการใช้สิทธิสูงถึง 146.96 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 19.35% ของมูลค่าการส่งออกรวมที่ใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐขยายตัวสูงถึง 126% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า (ม.ค.-มี.ค. 2565) และขยายตัว 144.68% เมื่อเทียบกันเดือนก่อนหน้าในปีเดียวกัน (ก.พ. 2566)

สำหรับการส่งออกภายใต้โครงการ GSP ไปยังสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และ CIS มีสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิสูง อาทิ ของผสมของสารที่มีกลิ่นหอมชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหรือเครื่องดื่ม (สวิตเซอร์แลนด์) เพชรพลอยรูปพรรณทำด้วยโลหะมีค่าอื่น ๆ (สวิตเซอร์แลนด์) บรรจุภัณฑ์ทำด้วยโพลิเมอร์ของเอทิลีน (สวิตเซอร์แลนด์) ข้าวโพดหวาน (นอร์เวย์) สูทของสตรีหรือเด็กหญิงทำด้วยขนแกะหรือขนละเอียดของสัตว์ (นอร์เวย์) และอาหารปรุงแต่ง (นอร์เวย์) เป็นต้น

สำหรับสหรัฐเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่ให้สิทธิพิเศษทางภาษีแก่สินค้าไทยภายใต้โครงการ GSP โดยไทยมีสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเป็น 0% จากสหรัฐ ภายใต้โครงการ GSP จำนวนกว่า 2,600 รายการ เช่น อาหารปรุงแต่ง เลนส์แว่นตา กรดมะนาวหรือกรดซิทริก ถุงมือยาง หีบเดินทางขนาดใหญ่ กระเป๋าใส่เสื้อผ้า และหลอดหรือท่อทำด้วยทองแดงบริสุทธิ์ไร้รอยต่อ เป็นต้น

ขณะนี้แม้ว่าโครงการ GSP สหรัฐได้สิ้นสุดอายุไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และสหรัฐยังอยู่ระหว่างการดำเนินขั้นตอนการต่ออายุโครงการ ส่งผลให้ผู้นำเข้าสินค้าที่เคยได้รับสิทธิ GSP สหรัฐจะต้องชำระภาษีในอัตราปกติ (MFN rate) ไปจนกว่าโครงการจะได้รับการต่ออายุ

อย่างไรก็ดี ผู้นำเข้าสามารถยื่นขอรักษาการใช้สิทธิ GSP ในการนำเข้าสินค้าได้ตามปกติ โดยที่ผ่านมาสหรัฐจะคืนภาษีเมื่อโครงการได้รับการต่ออายุ