ธรรมนัส ลุย สกัดหมูเถื่อน ยกระดับแก้ปัญหาราคาร่วงอีกรอบ 2-4 บาท

ธรรมนัส พรหมเผ่า

“ธรรมนัส” ประเดิมประชุมพิกบอร์ด 20 ก.ย. 2566 สกัดหมูเถื่อน ยกระดับแก้ปัญหาราคา ร่วงอีกรอบ 2-4 บาท/กก. ล่าสุด อธิบดีกรมปศุสัตว์ ลั่นพร้อมขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนเร่งปราบปรามหมูเถื่อนและกวาดล้างขบวนการทำลายชาติ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและปกป้องความปลอดภัยอาหารของคนไทย ขีดเส้น 2 เดือนเห็นผล

วันที่ 9 กันยายน 2566 รายงานข่าวระบุว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) วันที่ 20 กันยายน 2566 จะมีร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน มีกำหนด จะหารือ ใน 8 มาตรการระยะสั้นแก้ปัญหาราคาสุกรตกต่ำ และวาระอื่น ๆ กับความยั่งยืนระยะยาว หลังจากเกษตรกรประสบปัญหาราคาตกต่ำ จากหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามาตีตลาด

ปราบหมูเถื่อนให้เห็นผลใน 2 เดือน

นายสัตวแพทย์ สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ตามที่ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เร่งขับเคลื่อนแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรทุกด้านทันที สำหรับกรมปศุสัตว์ได้รับมอบหมายให้แก้ปัญหาหมูเถื่อนและการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบเกษตรกรเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะด้านต้นทุน เกษตรกรต้องแบกรับภาระด้านต้นทุนที่สูงแต่ขายไม่ได้ราคา และยังเสี่ยงต่อการระบาดของโรคสัตว์ ทั้งยังส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยย้ำว่า ต้องปราบปรามอย่างจริงจังและเห็นผลภายใน 1-2 เดือน นั้น กรมเร่งดำเนินการทันทีตามนโยบาย รมว.ธรรมนัส โดยได้ประชุมด่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเดินหน้าสานต่อการปราบปรามหมูเถื่อนที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

“การปราบปรามหมูเถื่อน เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ รมว.เกษตรฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง กรมปศุสัตว์ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการผลิตสินค้าปศุสัตว์โดยตรง และได้ประกาศทำสงครามกับขบวนการหมูเถื่อน ที่สร้างความเสียหายให้เกษตรกรไทยด้วยการดักจับทุกทิศทาง เพื่อกวาดล้างหมูผิดกฎหมายที่แทรกซึมอยู่ในประเทศ และกัดกร่อนสุขภาพของผู้บริโภคชาวไทยในวงกว้าง ที่ผ่านมา กรมบังคับใช้กฎหมายแล้ว 238 คดี รวมของกลาง 1,142 ตัน มูลค่ารวมกว่า 190 ล้านบาท และเตรียมทำลายของกลางครั้งใหญ่ในเดือนกันยายนนี้ และได้ยกระดับการทำงานให้เคร่งครัดขึ้น โดยเร่งรัดการปฏิบัติงานของ WARROOM ในทุกเขตและทุกจังหวัด ให้ดำเนินการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ และเสาร์-อาทิตย์ เพื่อปราบหมูเถื่อนให้สิ้นซากโดยเร็วที่สุด” อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว


อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวอีกว่า กรมได้แต่งตั้งทีมเจ้าหน้าที่หน่วยสารวัตรปศุสัตว์ไซเบอร์ ทำหน้าที่สืบค้นข้อมูลและหาหลักฐานการกระทำความผิดกฎหมายทางด้านปศุสัตว์ทางช่องทางออนไลน์ รวมถึงมีมาตรการป้องกันการลักลอบ ณ ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยาน ด้วยภารกิจสารวัตรบีเกิล รวมถึงมาตรการลักลอบ ณ ด่านกักกันสัตว์ท่าเรือ ด้วยการเปิดตู้ตรวจสอบสินค้ำปศุสัตว์ 100% ที่ด่านขาเข้า

ตลอดจนตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และลาดตระเวนตามแนวชายแดน ซึ่งจะมีการดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด โดยดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับขบวนการผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ โดยมีบทลงโทษแรกคือเนื้อสุกรที่จับได้จะถูกทำลายทิ้งทั้งหมด และคดีนี้เป็นคดีอาญามีโทษทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาล ส่วนกรณีห้องเย็นหากเคยขึ้นทะเบียนขอนำเข้าเนื้อสัตว์ไว้กับกรมและถูกตรวจพบการทำผิดกฎหมายเช่นนี้ กรมจะทำการเพิกถอนใบอนุญาตด้วย

จับหมูเถื่อนแล้ว 238 คดี

สำหรับผลการปฏิบัติงานบังคับใช้กฎหมายในการลักลอบนําซากสุกร เข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565 จนถึงปีงบประมาณ 2566 (ล่าสุดวันที่ 1 กันยายน 2566) ทั้งในส่วนของเนื้อสุกร เครื่องใน และชิ้นส่วน รวม 238 คดี จำนวนรวม 1,142,487 กิโลกรัม มูลค่ารวม 190,426,840 บาท มีการทำลายของกลางแล้ว 202 คดี จำนวนรวม 1,049,920 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 175,216,249 บาท

โดยกรมปศุสัตว์ ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามมาตรการเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกร ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) กระทรวงมหาดไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมศุลกากร กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานชายแดน

หมูเถื้อน

ร่วมกันปราบปรามการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนเนื้อสุกรอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร และป้องกันเชื้ออหิวาต์แอฟริกาสุกร หรือ ASF ที่อาจปนเปื้อนมากับชิ้นส่วนสุกร รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งชิ้นส่วนสุกรที่ลักลอบนำเข้า ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากกรมปศุสัตว์ อาจมีสารตกค้าง เช่น สารเร่งเนื้อแดง หรือเชื้อโรคอื่นที่เป็นอันตรายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรและผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน ในประเด็นการลักลอบนำเข้าโค-กระบือมีชีวิต จากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงชิ้นส่วนเนื้อโค-กระบือนั้น กรมปศุสัตว์ ก็มีมาตรการปราบปรามอย่างเข้มงวดและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังมาโดยตลอด เพื่อปกป้องพี่น้องเกษตรกรจากขบวนการผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง

ราคาหมูปรับลง 2-4 บาทต่อกิโลกรัม

ล่าสุดสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รายงานข้อมูลสภาวะตลาดสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม (สัปดาห์ที่ 36/2566) วันพระที่ 8 กันยายน 2566 ว่า ตลาดยังคงขาดปัจจัยบวก ราคาอ่อนตัวลงทุกภูมิภาค ระดับภูมิภาคเริ่มมีแนวคิดจัดการกันเอง เช่น ชลบุรีสีขาว กับแนวทางตัดวงจรต่าง ๆ เช่น ทำหมูหัน ลดแม่พันธุ์ ภาคใต้ภาคอีสานกำลังหาแนวทางให้รายเล็กอยู่ได้

ซึ่งล่าสุด ราคาวันพระนี้ ปรับลดราคาจาก 2 สัปดาห์ก่อนหน้า ประมาณ กก.ละ 3-4 บาท
ภาคตะวันตก 66-68 ลดลงจาก 68-70 บาท
ภาคตะวันออก 66-68 ลดลงจาก 70-72 บาท
ภาคอีสาน 64-68 ลดลงจาก 68-70 บาท
ภาคเหนือ 66-68 ลดลงจาก 68-70 บาท
ภาคใต้ 72 ลดลงจาก 74 บาท

ลูกสุกรขุนเล็ก 16 กิโลกรัม วันจันทร์ ที่ 4 กันยายน 2566 ราคา 1,400 บาท บวก/ลบ 66 บาท