บี.กริม เพาเวอร์ กอดเงินสดเกือบ 3 หมื่นล้าน รับมือราคาก๊าซผันผวน

ก๊าซธรรมชาติ
ภาพจาก Canva

บี.กริม เพาเวอร์ กอดเงินสดในมือสูงถึง 29,000 ล้านบาท รับความผันผวนของราคาก๊าซธรรมชาติในระยะยาว เดินหน้าตามยุทธศาสตร์ “GreenLeap” สร้างพันธมิตรระยะยาวใน-ต่างประเทศ รุกเพิ่มประสิทธิภาพ โรงไฟฟ้า SPP รองรับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม พร้อมเร่งเครื่องขยายพอร์ตพลังงานทดแทน ก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero

วันที่ 22 กันยายน 2566 ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของ บี.กริม เพาเวอร์ จากความผันผวนของราคาก๊าซธรรมชาติในระยะยาว ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ ได้เตรียมความพร้อมในส่วนของการจัดการด้านการเงินแล้ว ปัจจุบันมีเงินสดในมือสูงถึง 29,000 ล้านบาท (ณ กลางปี พ.ศ. 2566)

พร้อมกันนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างทางการเงิน (Capital Structure) ที่เหมาะสม แนวทางในการจัดหาแหล่งเงินทุนรูปแบบใหม่ ๆ อีกหลายรูปแบบ เพื่อเตรียมพร้อมรับการเติบโตในอนาคต อาทิ การออกหุ้นกู้, หุ้นกู้ เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond), หุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond), กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน, การทำ Asset Monetization โอกาสในการหาพันธมิตรรายใหม่เข้าร่วมลงทุนทั้งในธุรกิจที่มีในปัจจุบันและการขยายธุรกิจร่วมกันในอนาคต และการระดมทุนของบริษัทลูกในรูปแบบ IPO ซึ่งจะเพียงพอในการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้ บี.กริมมุ่งมั่นขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทั้งในประเทศและต่างประเทศสู่เป้าหมาย ตามยุทธศาสตร์ “GreenLeap-Global and Green” ของบริษัท โดยตั้งเป้าเติบโตสู่กำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 10,000 เมกะวัตต์ในปี พ.ศ. 2573 โดยอยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนาโครงการในประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา อิตาลี กรีซ สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งประเทศไทย พร้อมเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% ลดสัดส่วนระดับผลกระทบ

ทั้งนี้ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ตอกย้ำเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก และก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ. 2050 (ปี พ.ศ. 2593) โดยตั้งเป้าเติบโตสู่กำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 10,000 เมกะวัตต์ในปี พ.ศ. 2573

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM

พร้อมกันนี้ บี.กริม เพาเวอร์ มีกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจคือ การร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน อาทิ ความร่วมมือกับบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีเมนส์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด มายาวนานเกือบ 30 ปี, บริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด

Advertisment

รวมทั้งบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน), บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จํากัด (มหาชน), บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี, บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท China Energy Engineering Corporation เป็นต้น โดยเรายังคงมุ่งหน้าขยายธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารีร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ

บี.กริม เพาเวอร์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ โครงการโรงไฟฟ้า SPP หรือกลุ่มโรงไฟฟ้าเพื่ออุตสาหกรรม สนับสนุนการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพของภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทย ด้วยการสนับสนุนไฟฟ้าและไอน้ำที่มีเสถียรภาพในระดับสูงมาต่อเนื่องเกือบ 30 ปี

Advertisment

โดยเดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า การใช้เครื่องมือดิจิทัลขั้นสูง มุ่งลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งจัดหาพลังงานที่ตอบโจทย์ให้กับภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้บริการด้านพลังงานแบบครบวงจรแก่ลูกค้า (Industrial Solutions)

ตลอดจนการจัดหาแหล่งพลังงานทางเลือกเพื่อการผลิตไฟฟ้าสำหรับอนาคต (Sustainable Fuels) ตลอดจนการศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องการใช้ Green Hydrogen และแอมโมเนีย ในการผลิตไฟฟ้า เป็นต้น

“ภายใต้วิสัยทัศน์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี เรามีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก และก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ. 2050 (ปี พ.ศ. 2593)” ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าว