CEO ปตท. อัพเดตทุกธุรกิจ โชว์พันธมิตรระดับโลก-เคลื่อนสู่ฮับ LNG

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์
อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์

ภารกิจดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้ประชาชนเข้าถึงได้ ควบคู่ไปกับการสร้างความสมดุลเพื่อให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจไปในคราวเดียวกัน นับเป็นพันธกิจที่สำคัญของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

เมื่อ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พูดถึงทิศทางธุรกิจของเครือ ปตท. จึงน่าสนใจติดตามอย่างยิ่ง

อัพเดตทุกธุรกิจ-พันธมิตรร่วมทุน

ซีอีโอ ปตท.อธิบายภาพรวมกิจการทั้งหมดว่า บริษัทยังสามารถเติบโตได้ดี ในแง่ยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น จากเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวเต็มที่ 100% กลับมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และยิ่งมีการใช้ดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาทในปีหน้าจะยิ่งถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง เพราะน้ำมันเป็นสินค้าพื้นฐานที่โตตามสภาวะการใช้จ่ายของผู้บริโภคอยู่แล้ว

ถ้ามองด้านราคาน้ำมันปีนี้ก็กลับมามีราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ค่าการกลั่นอาจจะสู้ปีก่อนไม่ได้ แต่อยู่ในระดับที่ดี อาจจะดีกว่าช่วงต้นปี ส่วนปิโตรเคมีอยู่ในช่วงดาวน์เทิร์น ปริมาณความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 2-3%

ธุรกิจ ปตท.สผ.ก็ผูกตรงกับราคาน้ำมันอยู่แล้ว และจากการที่สามารถเข้าสู่พื้นที่แหล่งเอราวัณและเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติจาก 200 เป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต ซึ่งในปีหน้าคาดว่าจะผลิตได้ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต ตามเป้าหมาย การก่อสร้าง LNG Terminal เสร็จตามแผน โรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งที่ 7 กำลังอยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้างคาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 ปีแล้วเสร็จ ธุรกิจเทรดดิ้งก็สามารถทำได้ตามแผน

เช่นเดียวกับธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ขณะนี้สามารถขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้ 3,000 เมกะวัตต์ ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2030 กำลังการผลิต 12,000 เมกะวัตต์ ทาง ปตท.จึงได้ปรับเป้าให้ขยับขึ้นไปเป็น 15,000 เมกะวัตต์

ADVERTISMENT

ขณะที่ธุรกิจไฮโดรเจนที่มีความร่วมมือกับซาอุดีอาระเบีย ขณะนี้ได้ทำเอกสารรายละเอียดเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างที่หน่วยงานต่าง ๆ หารือร่วมกันเพื่อดำเนินการต่อทางด้านกฎหมาย

สำหรับธุรกิจกักเก็บพลังงาน (energy storage) จากที่ได้มีการร่วมทุนกับ 2 บริษัท คือ Gotion Singapore Pte. Ltd. (Gotion) Contemporary Amperex Technology Co., Ltd. (CATL) ลงนามสัญญาร่วมจัดตั้งโรงงานแบตเตอรี่ Cell-To-Pack ไปก่อนหน้านี้ ก็มีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปอย่างมาก โดยในส่วนของ Gotion โรงงานจะเสร็จในปีนี้ ส่วนของ CATL จะแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า

ADVERTISMENT

ด้านธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะในธุรกิจ life science ซึ่งมีบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (อินโนบิก) (บริษัทย่อยที่ ปตท. ถือหุ้น 100%) เป็นแฟลกชิป ได้มีการลงทุนในธุรกิจยาถือหุ้น 37% ในบริษัท โลตัส ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ซึ่งประสบความสำเร็จจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% เพราะสามารถลอนช์ตลาดยาในสหรัฐได้

ล่าสุดอยู่ระหว่างการจัดทำลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยทางด้านยา และมาตั้งโรงงานไบโอซิมิลาร์ในประเทศไทย โดยจะคัดเอาเทคโนโลยีที่เป็นอันดับ top 5 ในการแก้ไขปัญหาโรคที่คนไทยพบบ่อยมาก เช่น เบาหวาน โรคทางเดินอาหาร เป็นต้น

ส่วนโรงงานโปรตีนจากพืช (plant based) ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เสร็จแล้ว กำลังจะเริ่มทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ และนำนวัตกรรมจาก สวทช.มาผลิตโปรไบโอติก และยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ gummy ซึ่งมีส่วนผสมของสมุนไพรตรีผลา ปีนี้จะเริ่มสร้างแบรนด์ของอินโนบิก

ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ที่ได้ลงทุนในบริษัท นำวิวัฒน์ กำลังยื่นไฟลิ่งจะเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปีนี้ ในส่วนของบริษัท GC ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีก็จะมุ่งต่อยอดบริษัทที่เข้าไปร่วมทุน Allnex เพื่อพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าสูง และขยายตลาดในเอเชีย เช่น จีน

ขยายลงทุนโลจิสติกส์ ผนึกรัฐวิสาหกิจจีน-ลาว

ในส่วนธุรกิจด้านโลจิสติกส์ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ หลังจาก ปตท.ได้มีการร่วมลงทุนตั้งบริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด (GML) ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่มาต่อยอดเสริมแกร่งในเรื่องโลจิสติกส์ในระบบรางของประเทศไทย ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยทดลองเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าไปแล้ว

ขณะนี้ ปตท. โดย GML อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร 2 ประเทศ คือ สปป.ลาว และจีน ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจจีน มีแผนจะตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างกันโดยจะเป็นการต่อยอดโลจิสติกส์การขนส่งทางราง เชื่อมต่อจากมาบตาพุดของไทยไป สปป.ลาว และเชื่อมไปยังประเทศจีน ซึ่งมีนโยบายเส้นทางสายไหมใหม่ จึงมีเส้นทางรถไฟขนส่งเข้าสหภาพยุโรป

และบางเมืองของประเทศจีนมีพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับท่าเรือของฝั่งไทยมากกว่าหากขนส่งจากจีนผ่านมาที่หนองคายและมาลงทะเลฝั่งมาบตาพุด ใช้วิธีการขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์แทนการเชื่อมต่อรางที่มีขนาดไม่เท่ากัน ซึ่งหากการร่วมทุนนี้สำเร็จจะทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะพื้นที่จีนตะวันตกเฉียงใต้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในต้นปีหน้า

ทำตลาด LNG Terminal 2

นายอรรถพลยังได้อัพเดตโครงการ LNG Terminal แห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองแฟบ อ.เมือง จ.ระยอง ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2560 มีท่าเทียบเรือ LNG ความยาว 5.66 กม. ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีความยาวที่สุดในโลก เพื่อรับน้ำลึก 14 เมตร มีถังเก็บ LNG ขนาด 250,000 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 ถัง กำลังการผลิตเฟสที่ 1 จำนวน 7.5 ล้านตัน/ปี แล้วเสร็จในปี 2565 และสามารถขยายเพิ่มได้ 7.5 ล้านตัน/ปี

ซึ่งเป็นปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดิมสถานีแอลเอ็นจีแห่งแรกที่มาบตาพุด ที่มีกำลังการผลิต 11.5 ล้านตัน/ปี แล้วยังขยายกำลังการผลิตได้อีก 3.5 ล้านตัน/ปี ซึ่งนับเป็นแห่งแรกของไทยและของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งก่อสร้างท่าเทียบเรือแอลเอ็นจี 3 ท่า มีถังเก็บแอลเอ็นจี 4 ถัง ขนาดถังละ 160,000 ลูกบาศก์เมตร หน่วยบรรจุขนส่ง LNG ทางรถบรรทุก 182,500 ตัน/ปี

นับได้ว่าเป็นการสร้างอินฟราสตรักเจอร์เพื่อรองรับดีมานด์ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และสร้างเสถียรภาพพลังงานให้ประเทศ เพราะตอนนี้เรามี 2 เทอร์มินอล รวมกำลังการผลิต 19 ล้านตัน/ปี ซึ่งจังหวะที่สร้างเทอร์มินอลแห่งที่ 2 เสร็จ เป็นช่วงที่ บมจ.ปตท.สผ. เข้าพื้นที่เชฟรอนล่าช้า ทำให้กำลังการผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณลดลงจาก 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต เหลือ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต ไทยต้องนำเข้าแอลเอ็นจีมากขึ้น ท่าแห่งที่ 2 จึงได้มีการใช้ประโยชน์จริงได้ตรงจังหวะพอดี

ทั้งนี้ การสร้างเทอร์มินอล 3 ถมทะเลเสร็จแล้วอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการรอเซตตัว ไม่ต่ำกว่า 3-4 ปี โดยเฉลี่ยต้องมียื่นขออนุญาตจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งในการวางแผนการก่อสร้างแต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี

ดันไทย Reginal Hub ปี 2030

ปตท.วางเป้าหมาย road map ในการไปสู่การเป็นฮับภูมิภาค ปี 2030 ด้วยความพร้อมของยุทธศาสตร์ที่ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค มีความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐาน มีรูปแบบการให้บริการที่หลากหลาย

“ปตท.จึงเริ่มทดลองส่งออกไปญี่ปุ่น และนำเข้าจากกาตาร์ และเคยขนส่งไฮโซแท็งก์ไปจีน สะท้อนว่าเรามีความพร้อมที่จะก้าวไปสู่ความเป็นฮับ เราวางแผนว่าปีหน้าธุรกิจก๊าซจะมีทีมงานที่ทำเรื่องการตลาด เพราะปีก่อนเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน เป็นจังหวะที่ราคาก๊าซธรรมชาติผันผวนสูงจาก 5-6 เหรียญสหรัฐ เป็น 70-80 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู จึงได้ชะลอแผนไป แต่ขณะนี้ราคากลับมาที่ 14 เหรียญ และ พ.ย.-ธ.ค. 66 จะอยู่ประมาณ 15-16 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู สถานการณ์กลับมาคลี่คลาย ซึ่งราคาแอลเอ็นจีลงมาจะพร้อมทำการตลาดได้”

สิ่งที่สำคัญที่จะมาผลักดันให้ประเทศไทยสามารถก้าวสู่ความเป็นศูนย์กลางของ LNG terminal ได้ จะต้องมีการวางระบบกฎเกณฑ์การซื้อขายที่สร้างความเป็นธรรม ให้แข่งขันเสรีได้

ทั้งนี้ ปตท.ตั้งเป้าหมายสู่การเป็น Reginal Hub ในปี 2030 ซึ่งจะมีการซื้อขายปริมาณ LNG ผ่าน terminal ทั้งหมด 9 ล้านตัน จากกำลังการผลิตที่มี 19 ล้านตัน โดยมีสัญญา long term 5 ล้านตันแล้ว ซึ่งภายใน 1-2 ปีนี้จะมีการทำตลาด โดยคาดว่าจะมีการมาใช้บริการทั้งในประเทศและภูมิภาคอยู่ประมาณ 100,000-200,000 ตัน ลูกค้าหลักจะมีภาคเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตเป็น LNG ชิปเปอร์ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในชิปเปอร์ ที่มีแผนนำเข้า 6 ลำ ลำละ 60,000 ตันด้วยเช่นกัน

กำไรจาก “ความเย็น”

นอกจากนี้ ปตท.ยังได้นำความเย็นจากการเปลี่ยนสถานะ LNG ในระดับต่าง ๆ ไปใช้ในโครงการหน่วยแยกอากาศ และนำความเย็นไปใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าของสถานีและอาคารสำนักงาน

“ล่าสุดได้มีการขยายพื้นที่รอบ ๆ เทอร์มินอล ตอนนี้มี 160 ไร่ และกำลังคุยกับกลุ่มลูกค้าหลายรายที่ต้องการตั้งโรงงานโดยรอบ เพื่อใช้ประโยชน์จากความเย็น เช่น โรงแยกอากาศ โรงงานปิโตรเคมี GC โรงไฟฟ้าสีเขียว และกลุ่มผู้ลงทุน data center ที่มุ่งจะใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาด”

นอกเหนือไปจากเดิมที่นำมาใช้ในการปลูกพืชเมืองหนาว อย่างเช่น สตรอว์เบอรี่ ไม้ดอกเมืองหนาวอย่าง ดอกทิวลิป ซึ่งขณะนี้สามารถผลิตได้ 3 ล้านดอก สามารถสร้างรายได้ได้ 10 ล้านบาทต่อปี ช่วยให้ประเทศไทยสามารถลดการนำเข้าไม้ตัดดอกเมืองหนาวได้ ทั้งยังสามารถส่งออกไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

ยืดหนี้ กฟผ. 8,000-9,000 ล้าน ไม่กระทบรายได้

ซีอีโอ ปตท. ยังกล่าวถึงการเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการยืดภาระหนี้ค่าก๊าซธรรมชาติให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อนำไปสู่การปรับลดค่าไฟให้เหลือ 3.99 บาทตามนโยบายของรัฐบาลว่า การยึดหนี้ส่วนนี้ ปตท. จะทยอยเก็บในรอบนี้ก็เก็บในระดับที่จะบริหารค่าไฟให้อยู่ระดับ 3.99 บาทได้ มีส่วนเกินบาทส่วน ซึ่งเหมือนเป็นการให้เครดิตกับ กฟผ. อย่างที่เคยให้มาแล้วในปีก่อน 10,000 กว่าล้านบาท

“ตอนนี้วงเงินที่เราให้เครดิตประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท/งวด งวดเดียว ซึ่งต้องยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของ ปตท.อย่างมีนัยยะสำคัญอาจจะมีเรื่องภาระดอกเบี้ยบ้าง แต่ในท้ายที่สุดแล้วการยืดหนี้ไปก็ยังต้องมีการกลับมาใช้หนี้เช่นเดิม”

ปมเรื่องค่าการตลาด

ขณะนี้บริษัท ปตท. นํ้ามัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ มีการจัดทีมที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกับภาครัฐ โดยเฉพาะกับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ซึ่งก็จะปรับจูนกันความเข้าใจในเรื่องของสูตรราคา เพราะว่าที่มาของต้นทุนมีความหลากหลาย แต่ละบริษัทก็ไม่เท่ากันแต่ละพื้นที่ก็ไม่เท่ากัน และยังมีสเปกของน้ำมันที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งก็ต้องมาคุยในรายละเอียด ข้อมูลน่าจะตรงกันได้ โดยเรื่องนี้น่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งจะมีการปรับสูตรในเรื่องของน้ำมันยูโร 5 วันนี้หากมีการแก้ไขกฎหมายและกำหนดบทลงโทษ ทาง ปตท.ก็พร้อมจะต้องดำเนินการตามนั้น

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าค่าการตลาดปัจจุบันควรจะต้องมีการพิจารณาจากหลายปัจจัย ในส่วนของการแข่งขันของตลาดในประเทศมีการแข่งขันเพียงพอและที่ผ่านมาการปรับราคาของโออาร์ก็ทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค หากดูกำไรก็อยากจะให้ดูกำไรต่อยอดขาย ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำมากประมาณ 2% จากยอดขายแม้ว่านำเอาในส่วนของธุรกิจ non oil มาช่วยแล้วก็ตาม