
ผ่าแผนธุรกิจแบตเตอรี่ครบวงจร “ปตท.” ส่งบริษัทลูก Nuovo Plus ผนึก 3 พันธมิตรรุกตลาดแบตเตอรี่อีวี เปิดเดินเครื่องไตรมาส 4/66 กวาดลูกค้าอีวีจีน 2 หมื่นคัน พร้อมลุยผลิตระบบกักเก็บพลังงาน ESS จับกลุ่มลูกค้าไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน-เรสซิเดนต์ รับเทรนด์พลังงานสะอาดมาแรง วางอนาคตบุกตลาดรีไซเคิลแบตเตอรี่
หลังจากรัฐบาลมีนโยบาย 30@30 ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นหัวจักรขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างระบบนิเวศเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ทั้งระบบ โดยได้มีการตั้งโรงงานรับผลิตรถอีวี ที่จะเริ่มการผลิตในปี 2567 เป็นเฟสแรก จากการร่วมทุนของบริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด บริษัทลูกของอรุณ พลัส ในเครือ ปตท. กับ Lin Yin International Investment หรือ Foxconn
นอกจากนี้ ปตท.ยังได้ส่งบริษัทลูก “Nuovo Plus” เข้าสู่ธุรกิจแบตเตอรี่อีวี พร้อมทั้งก้าวสู่ธุรกิจการผลิตระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System : ESS)
ทั้งนี้ ธุรกิจแบตเตอรี่ของ ปตท.เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจใหม่ที่จะตอบโจทย์ประเทศที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป็นไปตามเป้าหมาย ปตท.ที่ต้องการเป็น Net Zero ในปี 2050
เทลงทุน 4,200 ล้านบาท
นายบุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจแบตเตอรี่ และ ESS ของ ปตท.ว่า บริษัทได้ลงทุนผ่านบริษัท Nuovo Plus จำกัด มีทุนจดทะเบียน 4,200 ล้านบาท เป็นการถือหุ้นร่วมกันระหว่าง อรุณ พลัส สัดส่วน 51% และ GPSC 49% โดยจะมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานในอนาคต ปัจจุบันมีสินค้าทั้งแบตเตอรี่อีวี และ ESS ทยอยออกสู่ตลาดแล้ว
ล่าสุดโรงงานต้นแบบ ที่ร่วมทุนกับ Gotion ที่ จ.ระยอง จะเริ่มผลิตในไตรมาส 4 นี้ โดย Gotion มีกลุ่มลูกค้าอีวีจากจีนอยู่แล้ว และ ปตท.ได้เจรจากับลูกค้าอีวีจีนเพื่อส่งแบตเตอรี่อีวีลอตแรก โดยจะซัพพลายให้ประมาณ 1 กิกะวัตต์ ใช้กับรถอีวี 15,000-20,000 คัน จะทยอยส่งมอบในช่วง 1-2 ปี
“เป็นไปตามนโยบายการส่งเสริมอีวีที่ให้โรงงานที่จะได้สิทธิประโยชน์จากไทยต้องมาตั้งผลิตรถอีวีในไทย สร้างสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศให้ได้ 40% และระหว่างรอโรงงานอีวี เราก็ยังมีการจัดหาตลาดสำหรับ ESS ไว้รองรับการผลิตช่วงแรกด้วย”
เปิดแผนธุรกิจ 3 โรงงาน
สำหรับขอบเขตธุรกิจ Nuovo Plus นอกจากการทำธุรกิจซัพพลายเรื่องแบตเตอรี่ และ ESS แล้ว ยังมีทีมที่ทำหน้าที่ ทั้งจัดหาลูกค้า จัดซื้อจัดจ้าง ทำการตลาด ออกแบบโซลูชั่น ให้บริการทางการเงิน บริการติดตั้ง ตลอดจนบริการหลังการขายให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม และขายธุรกิจไปต่างประเทศร่วมกับพันธมิตร รวมถึงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ครบวงจร
โดยได้จับคู่กับพันธมิตร 3 บริษัท ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน คือ 1) นูออโว พลัส ลงทุนถือหุ้น 51% ร่วมกับบริษัท Gotion Singapore Ple.,Ltd (บริษัทจีน) ถือหุ้น 49% ตั้งบริษัท เอ็นวี โกชั่น จำกัด (NV Gotion) นำเข้าวัตถุดิบ เซลล์แบตเตอรี่จากจีนเข้ามาประกอบเป็นแบตเตอรี่ แบบโมดูลแพ็ก ที่โรงงาน จ.ระยอง บนพื้นที่ 20 ไร่ มีกำลังการผลิตเฟสแรก 1 กิกะวัตต์ เริ่มในไตรมาส 4 และทยอยเพิ่มสูงสุด 4 กิกะวัตต์
2) ปตท.ได้มีการร่วมทุน โดย อรุณพลัส กับบริษัท Contemporary Amperex Technology Co., Ltd หรือ CATL ตั้งโรงงานประกอบแบตเตอรี่แบบ cell to pack อีกแห่งหนึ่ง และ 3) การตั้งโรงงาน G cell โดยใช้เทคโนโลยีของ 24M จากจีนที่จะมาตั้งเป็นโรงงานต้นแบบ ที่ระยอง
ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบแห่งแรกที่อยู่ต่างประเทศของ 24M ทำหน้าที่ผลิตระบบกักเก็บพลังงาน ESS จากลิเทียมไออน ระบบเซมิโซลิตแห่งแรกในอาเซียน มีกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ต่อปี นอกจากนี้ 24M ยังจับมือกับ AXXIVA ผู้ผลิตรถยนต์อีวีแบรนด์เชอรี่ จากจีน และเคียวเซล่า จากญี่ปุ่น ซึ่ง ปตท.หวังว่าโรงงานนี้จะช่วยให้วิศวกรไทยมีประสบการณ์มากขึ้นด้วย
สำหรับไทม์ไลน์การดำเนินการแบ่งเป็น 4 ช่วง นับจากเริ่มก่อสร้างโรงงานในปี 2020-2021 ช่วงที่ 2 โรงงานต้นแบบแล้วเสร็จ ปี 2022-2023 ช่วงที่ 3 คือการกระตุ้นดีมานด์ ในปี 2024-2025 มีกลุ่มเป้าหมายคืออีวีบัส รถยนต์อีวี ระบบ ESS และช่วงที่ 4 ปี 2026 เป็นต้นไปจะเริ่มทำการตลาดเชิงพาณิชย์
“ความแตกต่างของแบตเตอรี่ โมดูลแพ็ก กับ cell to pack คือ โมดูลแพ็ก จะแพ็กเป็นกล่อง ๆ หากเสียจะเปลี่ยนเฉพาะกล่องที่เสีย ส่วน cell to pack จะประกอบกันโดยมีลวดเชื่อม หากเสียจะต้องเปลี่ยนทั้งหมด นอกจากวิธีประกอบต่างกันแล้ว ระยะเวลาชาร์จยาวนานต่างกัน น้ำหนักต่างกัน จึงเหมาะกับแต่ละประเภท ส่วนเซมิโซลิต หรือกึ่งแห้งกึ่งเปียก
มีจุดเด่น 3 ด้าน คือ จะลดการใช้พวกกาว และโซเวน ซึ่งเป็นสารทำละลายเวลาติดกาวเชื่อมระหว่างเซลล์ จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ลดการใช้พลังงาน ทำให้ไปสู่การกรีน เพราะลดการใช้พลังงานได้ถึง 50% และช่วยลดต้นทุนการใช้สารได้ 30% และที่สำคัญมีความปลอดภัยสูง”
ด้วยความแตกต่างของทั้ง 3 ประเภทนี้ จึงเหมาะกับกลุ่มลูกค้า 3 แบบ คือ กลุ่มลูกค้าโมบิลิตี้ ทั้งผู้ใช้รถอีวีบ้าน รถบัส รถบรรทุกและเรืออีวี จะมีสินค้าพวก LFP battery pack และกลุ่ม stationary segment เช่น สถานีไฟฟ้า โรงไฟฟ้า (แบบที่ไม่เคลื่อนที่) มีทั้ง ESS-Micro Grid รวมถึง ESS C&I กลุ่มบ้านที่อยู่อาศัย และกลุ่ม UPS ส่วน G cell จะจับกลุ่มลูกค้าพิเศษ
2 ปัจจัยหนุนยอดขายโต
นายบุรณินกล่าวว่า ปัจจัยหนุนในการขับเคลื่อนธุรกิจนี้ เป็นผลจากการที่เทรนด์ทั่วโลกมุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รัฐบาลดำเนินนโยบายสนับสนุนอีวี คาดว่าปีนี้จะมียอดการจดทะเบียนรถอีวีเพิ่มขึ้นเป็น 70,000 คัน ในบางประเทศอย่างยุโรปมีการประกาศแผนการลดและเลิกใช้รถยนต์สันดาป ทำให้แนวโน้มความต้องการแบตเตอรี่อีวีจะเพิ่มขึ้น
ประกอบกับการเดินหน้าสู่การเป็นกลางทางคาร์บอน และสู่การเป็นเน็ตซีโร่ ทำให้จะต้องเร่งพัฒนาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (renewable) เช่น แสงแดดหรือลม ซึ่งพลังงานชนิดนี้ยังไม่เสถียรขึ้นอยู่กับความแรงของลม หรือความเข้มข้นของแสงแดด เช่น ไฟฟ้าโซลาร์ หากผลิตได้ช่วงกลางวันใช้ไม่หมดก็จะต้องสูญเสียไป ดังนั้นจึงต้องมีระบบ ESS มาช่วยเสริมเก็บพลังงานไว้ใช้เวลากลางคืน ทำให้แผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้าของประเทศจะมุ่งไปสู่ RE มากขึ้น
การจะไปสู่จุดนั้นจะต้องมีการลงทุน ESS เพิ่มขึ้น เป็นต้นทุนผู้ผลิตไฟฟ้า ภาครัฐจึงมีการจูงใจโดยรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตที่ใช้ระบบ RE+ESS สูงกว่าไฟฟ้าที่มีเฉพาะ RE เพียงอย่างเดียว ซึ่งแนวโน้มความต้องการสินค้า ESS จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สิ่งที่สำคัญคือการกระตุ้นความต้องการซื้อ เพื่อจะเป็นการเพิ่ม economy of scale และการดูแลเรื่องวัตถุดิบ แร่หายากต่าง ๆ อาทิ ลิเทียม นิกเกิล โคบอลต์ เป็นต้น ซึ่งตอนนี้เราใช้วิธีนำเข้ามาประกอบในประเทศ ราคาช่วงก่อนหน้านี้ลิเทียมสูงขึ้น
แต่ปัจจุบันลดลงมาแล้วหลังจากจีนเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ราคาแร่นี้ลดลง แต่ต่อไปหากตลาดมีความต้องการ แร่หายากเพิ่มขึ้นก็อาจจะเป็นโอกาสให้กับธุรกิจในกลุ่ม ปตท. โดยเฉพาะ ปตท.สผ.ที่ปกติทำหน้าที่สำรวจแหล่งก๊าซและปิโตรเลียมก็อาจลงทุนเรื่องนี้ได้
นอกจากการผลิตและจำหน่ายแล้ว ยังมองโอกาสในการศึกษา เพื่อพัฒนาต่อยอดโรงงานที่เก็บซาก หรือรีไซเคิลแบตเตอรี่ประเภทต่าง ๆ ในอนาคตด้วย เพราะแบตเตอรี่แต่ละประเภทมีอายุการใช้งานประมาณ 8-10 ปี เมื่อหมดอายุต้องเปลี่ยน แต่ชิ้นส่วนของเซลล์แบตเตอรี่ยังใช้ประโยชน์ได้บางส่วน ดังนั้นต้องมีการนำแบตเตอรี่นั้นมาแยกชิ้นส่วนเพื่อมาใช้รีไซเคิล เช่น ที่เรียกว่า second life แบตเตอรี่ เป็นต้น
- ผวา “สงครามการค้า” รอบใหม่ “แบตเตอรี่ วอร์” อียู-จีน
- เส้นทางครองโลกของ “EV จีน” มีขวากหนาม เมื่อยุโรปเล็งตั้งกำแพงภาษี
- จีนโวยยุโรป “กีดกันการค้า” กรณีสั่งสอบ-เล็งขึ้นภาษี EV เตือนกระทบสัมพันธ์
- EV จีนกินแชร์ส่งออกพุ่ง เป็นไม่กี่ “ความหวัง” ของพญามังกรในเวลานี้
- เศรษฐา ต่อชีวิตรถสันดาป ถกค่ายญี่ปุ่นลดเหลื่อมล้ำ อีวีจีน
- ทำไม “จีน” ถึงกลายเป็นยักษ์ ในอุตสาหกรรม “อีวี” โลก
- ปตท.ปรับแผน สู้ศึกรถอีวีจีน ต่อยอดโรงงานแบตเตอรี่ขาย OEM