ภูมิธรรมนำทัพเอกชนบุกจีน กระตุ้นส่งออกไทยโค้งสุดท้ายคว้าเป้า 2%

CHINA-ECONOMY
This aerial photo taken on October 13, 2023 shows cargo ships at Qingdao port in China's eastern Shandong province. (ภาพโดย AFP) / China OUT

ภูมิธรรม นำทัพ 20 เอกชน ร่วมงานแสดงสินค้านำเข้าจีน CIIE ครั้งแรก กระตุ้นตลาดส่งออกโค้งสุดท้าย เร่งเครื่องอัดกิจกรรม 73 กิจกรรม ปูพรมใน 6 ตลาดเป้าหมาย มั่นใจทั้งปีส่งออกไทยโต 1-2%

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จะนำคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และภาคเอกชนกลุ่มเกษตร-อาหารร่วม 20 บริษัท เข้าร่วมงานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (China International Import Expo หรืองาน CIIE) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายน 2566 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมแห่งชาติ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน

ทั้งนี้ งาน CIIE นี้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2561 เป็นงานแสดงสินค้าลำดับต้น ๆ ของจีน แต่ในช่วงปี 2563-2566 เกิดสถานการณ์โควิด ประเทศจีนได้ประกาศกักตัวผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีน 14 วัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการของไทยไม่สามารถเข้าร่วมงาน CIIE ได้ ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงได้ปรับรูปแบบการเข้าร่วมโดยในปี 2563 ใช้วิธีนำสินค้าตัวอย่างไปจัดแสดงพร้อมเจรจาการค้าผ่านระบบออนไลน์ โดยมีบริษัทเข้าร่วม 25 บริษัท แบ่งเป็นกลุ่มอาหาร 17 บริษัท และกลุ่มอุปโภค (life style) 8 บริษัท

ภูมิธรรม เวชยชัย
ภูมิธรรม เวชยชัย

ขณะที่ในปี 2564 และปี 2565 จีนยังคงมีมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงเข้าร่วมงาน CIIE โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยกลุ่มอาหารที่มีตัวแทนในประเทศจีน สามารถเข้าร่วมกิจกรรมกับกรมได้ โดยในปี 2564 มีบริษัทไทยเข้าร่วม 14 บริษัท และในปี 2565 มีบริษัทไทยเข้าร่วม 13 บริษัท

สำหรับการจัดงานในปี 2566 ครั้งนี้ มีบริษัทไทยเข้าร่วม 20 บริษัท ภายในงานครั้งนี้ กรมได้เข้าร่วมการจัดแสดงนิทรรศการภาพลักษณ์ (Country Exhibition/Pavilion) โดยนิทรรศการจะเป็นการแสดงบทบาทกระทรวงพาณิชย์ เช่น การส่งเสริมอาหารไทย ธุรกิจสปา การค้าออนไลน์ รวมทั้งนำข้าวไทยมาแนะนำให้ผู้เข้าร่วมได้รับทราบและทดลองชิม นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการลงทุน และเปิดการเจรจาทางการค้า หวังว่ากระตุ้นการ
ส่งออกสินค้าไทยไปตลาดจีน

ทั้งนี้ ไทยส่งออกสินค้าไปตลาดจีน เดือนสิงหาคม 2566 ขยายตัว 1.9% โดยสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และเครื่องยนต์สันดาปภายใน เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และยางพารา เป็นต้น ส่งผลให้การส่งออกไทยไปจีน 8 เดือนแรก (มกราคม-สิงหาคม) ของปี 2566 หดตัว 3.0%

ประเทศที่จีนนำเข้าสินค้าสูงสุด ได้แก่ ไต้หวัน ออสเตรเลีย สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย เยอรมนี บราซิล มาเลเซีย และอินโดนีเซีย อย่างไรก็ดี การนำคณะเอกชนร่วมแสดงสินค้าครั้งนี้ก็คาดหวังการขยายตัวการส่งออกในตลาดจีน การผลักดันหุ้นส่วนเศรษฐกิจโดยเฉพาะจีน ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ศึกษารายมณฑลที่มีความพร้อมในการส่งออกและลดปัญหา อุปสรรคการค้า-การส่งออกระหว่างกันต่อไป รวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ด้วย

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกในปี 2566 ยังคงตัวเลข 1-2% โดยกำหนดแผน Quick Win ที่จะดำเนินการในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2566 นี้ จะมีการจัดกิจกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวม 73 กิจกรรม คาดการณ์เพิ่มมูลค่าการส่งออกได้กว่า 12,400 ล้านบาท

สำหรับกิจกรรมในต่างประเทศอื่นที่กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าการขยายตลาดส่งออก จะมุ่งเน้นตลาดศักยภาพ 6 ภูมิภาค คือ ตะวันออกกลางและแอฟริกา, จีนและฮ่องกง, อาเซียน, อเมริกาเหนือและละตินอเมริกา, เอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย และยุโรป อาทิ Automechanika ดูไบ, งาน American Film Market ในสหรัฐ, งาน Anuga และ Medica ในเยอรมนี

รวมไปถึงสนับสนุนผู้ประกอบการภายใต้โครงการ SMEs Pro-active เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในภูมิภาคต่าง ๆ รวม 50 งาน นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้า TOP Thai บนแพลตฟอร์ม Shopee ในมาเลเซีย Rakuten ในญี่ปุ่น

ส่วนกิจกรรมสําคัญในประเทศ อาทิ จัดการเจรจาธุรกิจออนไลน์ (OBM) ในกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหาร BCG ในงาน Agro Fex 2023 ที่ จ.นครราชสีมา สินค้าเครื่องจักรกลการเกษตร ในงาน THAITAM รวมถึงสินค้าศักยภาพกลุ่ม Niche เช่น สินค้าสำหรับแม่และเด็ก สำหรับ Silver generation ตลอดจนอาหารและอุปกรณ์สําหรับสัตว์เลี้ยง

“การส่งออกในปี 2567 ได้มอบนโยบายในการทำงานเพื่อวางเป้าหมายการส่งออก และแผนขับเคลื่อนการส่งออก โดยการทำงานร่วมกับภาคเอกชน ทูตพาณิชย์ เพื่อผนึกกำลังเร่งรัดการส่งออก รวมไปถึงเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างทูตพาณิชย์กับพาณิชย์จังหวัดเพื่อขยายโอกาสในการส่งออกสินค้าของ SMEs และสินค้าชุมชน ผ่านช่องทางหลากหลาย รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ และการจัดโรดโชว์ไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อเปิดตลาดสินค้าและธุรกิจบริการ และการสนับสนุนนโยบาย Soft Power ด้านงานออกแบบ อาหารไทย ภาพยนตร์และเกม แฟชั่น หนังสือ และการท่องเที่ยวคุณภาพสูงด้วย”