รู้จัก “ฉางอาน” ยักษ์อีวีจีน อายุกว่า 16 ทศวรรษ กับการลงทุนโรงงานอีวีที่ไทย บนพื้นที่ 250 ไร่
วันที่ 26 ตุลาคม 2566 บิ๊กดีล ระหว่าง บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในเครือดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ที่เพิ่งลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินครั้งใหญ่ให้บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด หนึ่งในกลุ่มยานยนต์ชั้นนำ 4 กลุ่มของจีน
ที่เข้ามาขยายการลงทุนโรงงานอีวี บนพื้นที่ 250 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด 4 ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป บนพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า นับเป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment) ครั้งสำคัญแห่งปี 2566 นับเป็นการปลุกเครื่องจักรด้านการลงทุนครั้งใหญ่
ซึ่งการลงทุนครั้งนี้นับได้ว่าฉางอาน เป็นอีวีจีนค่ายที่ 4 ที่เข้ามาจับมือกับ WHA
“ประชาชาติธุรกิจ” จะพามาทำความรู้จัก “ฉางอาน ออโต้” ผู้ผลิตยานยนต์ของประเทศจีน และเป็นอันดับ 4 ของโลก
ฉางอาน มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มณฑลฉงซิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีอายุยาวนานกว่า 16 ทศวรรษ ฉางอาน มีโรงงานผลิตถึง 12 แห่งทั่วโลก มีการขายไปยัง 63 ประเทศทั่วโลก มียอดขายปี 2.5 ล้านคัน ซึ่งตั้งแต่เริ่มผลิตและส่งมอบจนถึงวันนี้มากกว่า 25 ล้านคัน
ฉางอานมีศูนย์วิจัยและพัฒนาใน 6 ประเทศ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น อิตาลี เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา และกำลังจะตั้งที่ไทย และมีบริษัทที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีอีก 17 แห่ง มีวิศวกรและเจ้าหน้าที่วิจัยและพัฒนารวม 17,000 คน ฉางอานมียอดขายกว่า 2 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุดในรอบ 5 ปี ในปี 2023 ฉางอาน ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในประเทศจีน โดยการจัดอันดับของ J.D. Power 2023 China Sale Satisfaction Index
ตามความหมาย ชื่อ “ฉางอาน” แบ่งได้ว่า ฉาง แปลว่า ยาวนาน ส่วนคำว่าอาน แปลว่า ความปลอดภัย รวมกันแล้ว คือ ความปลอดภัยที่ยาวนาน
ฉางอาน ออโตโมบิล ทุ่มเทอย่างมากในการพัฒนาเทคโนโลยี ความปลอดภัย สมรรถนะ ความสบายในการขับขี่ รวมถึงการเป็นยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ในงานเซี่ยงไฮ้ motor show ครั้งที่ผ่านมาได้มีการประกาศยุทธศาสตร์ “มหาสมุทรที่กว้างใหญ่” เน้นเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอัจฉริยะด้านต่าง ๆ รวมถึงพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเดินหน้าต่อไปในทุกโรงงานทั่วโลก รวมถึงในไทยด้วย
ฉางอานมีพันธกิจคือการสร้าง “อารยธรรมของรถยนต์เพื่อนำไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น” จะนำผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า ประสบการณ์ในการให้บริการมาสู่ลูกค้าในประเทศไทย แล้วจะทำทุกอย่างให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค
สำหรับแผนการดำเนินงาน โครงการในนิคม WHA ครั้งนี้ มีกำหนดจะวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ก่อนที่โรงงานจะก่อสร้างและเริ่มผลิตได้ในไตรมาสหนึ่งของปี 2568 จะเปิดตัวรถรุ่นแรกในปลายเดือนพฤศจิกายน ในงานมอเตอร์ เอ็กโป วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 โดยจะเปิดตัวทุกโมเดลที่มี และจะนำเสนอ 2 รุ่นที่พร้อมขาย ก็ต้องมารอลุ้นกันว่าจะเป็นรุ่นไหน และราคาเท่าไร