หารือชาวไร่ได้ข้อสรุปราคาน้ำตาลแล้ว พาณิชย์ ชง ครม. เคาะปรับราคาสัปดาห์หน้า

น้ำตาล

ทนอีก 3-4 วัน พาณิชย์ ชง ครม. เคาะปรับราคาน้ำตาลทรายสัปดาห์หน้า หลังยรรยง ทปษ.รองนายกฯ หารือชาวไร่ได้ข้อสรุปปัญหาราคาน้ำตาลแล้ว พร้อมมอบ กรมการค้าภายใน-สอน.วางมาตรการสกัดการกักตุน

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นายยรรยง พวงราช ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานคณะทำงานบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เปิดเผยผลสรุปการหารือกับ ตัวแทนชาวไร่อ้อยวันนี้ (10 พ.ย.2566) ว่า ที่ประชุมจะเสนอผลสรุปการพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาราคาน้ำตาลทราย ต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณา ก่อนที่จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า (14 พ.ย. 2566) ให้พิจารณา

“แนวทางการปรับเปลี่ยนราคาน้ำตาลทราย จะยังไม่สามารถเปิดเผยราคาน้ำตาลที่ปรับเปลี่ยนได้ เนื่องจากจะต้องผ่านการพิจารณาอีกหลายขั้นตอน แต่ยืนยันได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกับทุกฝ่าย จากการหารือทุกฝ่ายยอมรับได้

               

โดยจะต้องขอบคุณชาวไร่อ้อยที่เป็นผู้เสียสละ ให้กับประชาชนทั้งประเทศ เพราะการปรับราคาอาจจะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ น้ำตาลเป็นสินค้าสำคัญที่จะมีผลต่อต้นทุนการผลิตในอุตสาหกรรม อาหาร เครื่องดื่ม หรือแม้แต่ยา”

สำหรับข้อสรุปที่พิจารณา 2 ส่วน คือ

1) ราคาที่เปลี่ยนแปลงจะไปในทางที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ ส่วนในประเด็นเกี่ยวกับข้อเสนอ การปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย 2 บาท เพื่อเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อนำไปจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ปลูกอ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานน้ำตาลตามนโยบายลดฝุ่น PM 2.5 นั้น ขอให้รัฐบาลไปพิจารณางบประมาณในส่วนอื่นเพื่อบริหารจัดการเรื่องมลพิษ ไม่ควรผลักภาระมาให้กับผู้บริโภค

2) ในขณะที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ใน 3-4 วันนี้ จะยังคงดำเนินการมาตรการต่าง ๆ ตามที่ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กำหนดทั้งการให้แจ้งปริมาณการเคลื่อนย้ายน้ำตาลที่จะมีการส่งออก และการแจ้งปริมาณที่ครอบครอง เพราะน้ำตาลจะยังคงเป็นสินค้าในบัญชีควบคุม

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการกักตุนน้ำตาล มอบหมายให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) พิจารณามาตรการไม่ให้มีการกักตุน

ชาวไร่อ้อยพอใจ ต้องปรับขึ้น 4-5 บาท

ด้านนายกำธร กิตติโชติทรัพย์ นายกสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 กาญจนบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบข้อสรุปว่าจะให้มีการปรับราคาหรือไม่ ในอัตราเท่าไร ซึ่งทางสมาคมชาวไร่ได้รายงานต้นทุนอ้อยที่ตันละ 1,500 บาท ขณะที่ทาง สอน.ระบุว่าต้นทุนอยู่ที่ตันละ 1,300 บาท ซึ่งจะต้องนำมาหาค่าเฉลี่ยกัน เพื่อพิจารณาราคาอีกครั้ง

“ราคาที่ชาวไร่พอใจจะต้องปรับขึ้น 4-5 บาทต่อกิโลกรัม เพราะชาวไร่เผชิญปัญหาต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะราคาปุ๋ยที่สูงขึ้น จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน เรายืนยันว่าการปรับราคาครั้งนี้ไม่ใช่คนไทยจะกินน้ำตาลแพงที่สุดในโลก เพราะต่างประเทศราคาไปถึง 28-30 บาทแล้ว ไทยเป็นประเทศผู้ผลิต พวกเราคงไม่ได้ยึดราคาโลกเป็นที่ตั้ง แต่ถ้าพวกเราเลิกไป ท่านอาจจะต้องกินน้ำตาลกิโลละร้อย”

รายงานข่าวระบุว่า คาดการณ์ว่าในประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันให้มีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน กก.ละ 2 บาท โดยน้ำตาลทรายขาว ปรับขึ้นเป็นเป็น กก.ละ 21 บาท และน้ำทรายขาวบริสุทธิ์ ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 22 บาท โดยคาดว่าราคาใหม่จะมีผลบังคับทันทีภายหลังผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี

สำหรับปัจจุบัน ราคาขายปลีกจะอยู่ที่ กก.ละ 24 บาท สำหรับน้ำตาลทรายขาว และ
กก.ละ 25 บาทสำหรับน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาใหม่