เปิดวิธีตรวจสอบเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ผ่านช่องทางเว็บไซต์ chongkho.inbaac.com ต้องทำอย่างไร ได้เงินเข้าวันไหน
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เป็นวันแรกของการเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร 1,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบมาตรการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท ตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 ซึ่งมีเป้าหมายเกษตรกร 4.68 ล้านครัวเรือน
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“ประชาชาติธุรกิจ” รวมขั้นตอนการตรวจสอบเงินโอนช่วยเหลือชาวนา ต้องทำอย่างไรบ้าง
ตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกร
การตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกร จากการขึ้นทะเบียนกรมส่งเสริมการเกษตร ปี 2566 สามารถตรวจสอบสถานะได้ที่ : https://efarmer.doae.go.th/login
ตรวจสอบสถานะการโอนเงิน 1,000 บาท
สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบสถานะการโอนเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท สามารถทำได้ดังนี้
1.เข้าไปที่เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com/
2.หลังจากนั้นกรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก
3.คลิก ค้นหา
หลังจากนั้นระบบจะแจ้งรายละเอียด ชื่อโครงการ เลขที่บัญชี วันที่โอน สาขา ธ.ก.ส. สถานะ หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
เช็กเงินเข้าบัญชี
เกษตรกรสามารถตรวจสอบวงเงินเข้าบัญชีได้ที่ ธกส.ทุกสาขาที่ใกล้บ้าน หรือช่องทางออนไลน์ ที่ผ่านแอปพลิเคชั่น BAAC Mobile
- สามารถเช็กผลโอนเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากเงินเข้าบัญชีจะมีข้อความแจ้งให้ทราบทันที https://chongkho.inbaac.com/
- เมื่อมีเงินโอนเข้าแล้ว สามารถกด ATM ได้ทันที
ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่านบริการ BAAC Connect ทาง Line: BAAC Family
คาด 5 วันจ่ายครบ
สำหรับการจ่ายเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567 แบ่งเป็น 5 งวด ประกอบด้วย
งวดที่ 1 จ่ายวันที่ 28 พ.ย.66 จำนวน 21 จังหวัด
หนองบัวลำภู เลย นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ตาก เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน แม่ฮ่องสอน ลพบุรี และกรุงเทพฯ
งวดที่ 2 จ่ายวันที่ 29 พ.ย.66 จำนวน 8 จังหวัด
ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สกลนคร อุดรธานี นครพนม หนองคาย มุกดาหาร และบึงกาฬ
งวดที่ 3 จ่ายวันที่ 30 พ.ย.66 จำนวน 5 จังหวัด
นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และยโสธร
งวดที่ 4 จ่ายวันที่ 1 ธ.ค.66 จำนวน 5 จังหวัด
อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ขอนแก่น และกาฬสินธุ์
งวดที่ 5 จ่ายวันที่ 2 ธ.ค.66 จำนวน 38 จังหวัด
อยุธยา ชัยนาท สิงห์บุรี ปทุมธานี สระบุรี อ่างทอง นนทบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ จันทบุรี ตราด สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ชุมพร ภูเก็ต กระบี่ ระนอง และพังงา
ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่านบริการ BAAC Connect ทาง Line: BAAC Family
