
อคส. ส่งอัยการฟ้องแพ่งเจ้าหน้าที่ อคส. 7 คน รวม 2 พันล้านบาท หลังกรมบัญชีกลางยืนยันทั้ง 7 คนต้องรับผิดทางละเมิด และชดใช้ความเสียหาย 2 พันล้านบาท ส่วนคดีอาญารออัยการฟ้องเร็ว ๆ นี้
วันที่ 15 มกราคม 2567 นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีทุจริตจัดซื้อถุงมือยางเทียม 500 ล้านกล่อง มูลค่า 125,000 ล้านบาท ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ว่า ล่าสุดเมื่อเดือน ธ.ค. 2566 อคส.ได้ใช้อำนาจของ อคส.ส่งเรื่องให้อัยการฟ้องร้องความรับผิดทางละเมิด หรือฟ้องแพ่งเฉพาะกับเจ้าหน้าที่ อคส.รวม 7 ราย
ที่คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด ที่ อคส.ได้แต่งตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2564 และได้สรุปผลการพิจารณาว่า เจ้าหน้าที่ อคส. 7 รายกระทำทุจริตในการจัดซื้อถุงมือยางเทียม ทำให้ อคส.เสียหายรวมประมาณ 2,003 ล้านบาท และทั้งหมดต้องชดใช้ความเสียหายให้ อคส.
“การส่งเรื่องดังกล่าวให้อัยการฟ้องร้อง เกิดขึ้นหลังจากที่ อคส.ได้รับหนังสือยืนยันจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เมื่อเดือน ธ.ค. 2566 ถึงจำนวนผู้ที่ต้องชดใช้ความเสียหาย และมูลค่าความเสียหายที่ทุกคนต้องชดใช้ อคส. ซึ่งกรมบัญชีกลางยืนยันจำนวนผู้ที่ต้องรับผิดทางละเมิด 7 คน รวมมูลค่า 2,003 ล้านบาท ตามที่ อคส.ส่งผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดไปให้ คาดว่าจะได้รับการอนุเคราะห์จากสำนักงานอัยการสูงสุดฟ้องศาลในเดือน ม.ค.นี้”
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีอื่น ๆ ของผู้กระทำผิดในโครงการจัดซื้อถุงมือยางครั้งนี้ แบ่งเป็นคดีอาญานั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักได้อายัดบัญชีของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว และชี้มูลความผิดผู้กระทำผิด ทั้งเจ้าหน้าที่ อคส. และเอกชนแล้วตั้งแต่เดือน เม.ย. 2566
ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมสำนวนฟ้องโดยอัยการ แต่ตามข้อกฎหมายของ ป.ป.ช. ทรัพย์ที่ยึดได้จะตกเป็นของแผ่นดิน อคส.จึงขอความอนุเคราะห์ให้ยึด ทรัพย์แล้วคืนให้แก่ อคส. เพราะเป็นเงินของ อคส.ที่กลุ่มผู้กระทำความผิดได้ถอนออกจากบัญชี อคส. เพื่อนำไปจ่ายเป็นค่ามัดจำผลิตถุงมือยางให้กับผู้รับจ้างผลิต ซึ่งเป็นประเด็นข้อกฎหมายที่อัยการอยู่ระหว่างการพิจารณา
ส่วนคดีอาญาฟอกเงินนั้น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นหน่วยงานหลัก ซึ่ง อคส.ได้ประสานไปหลายครั้งแล้ว ล่าสุดทราบจากข่าวว่าคณะกรรมการธุรกรรมการเงิน ปปง.ได้เห็นชอบให้ยึดทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราว ของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการ ผู้อำนวยการ อคส. และพวก ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจำนวนกว่า 10 ล้านบาท
ซึ่งอคส.ได้ยื่นเรื่องขอทรัพย์คืนจาก ปปง.แล้ว ส่วน กลุ่มบุคคลอื่นที่กระทำผิด ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ยังไม่ทราบว่าได้ยึดทรัพย์หรือไม่ และจำนวนเท่าไร
“การยึดทรัพย์คืน อคส.แบ่งเป็น 2 ตะกร้าคือ ตะกร้า ป.ป.ช. ได้มาแล้วตามที่เป็นข่าว 550 ล้าน เป็นที่ดิน 33 ไร่ กับตะกร้า ป.ป.ง. ซึ่งติดตามยึดทรัพย์ ทั้งรถหรู บิ๊กไบก์ นาฬิกาดัง กระเป๋าแบรนด์เนม รวมถึงขยายวงถึงผู้รับทรัพย์ต่อเป็นทอด ๆ ไป จากข่าวทราบว่ายึดทรัพย์จากกลุ่มอดีตรักษาการผู้อำนวยการ ซึ่งเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น ยังไม่ทราบว่ากลุ่มใหญ่ที่สร้างความเสียหายนั้น ป.ป.ง.ติดตามยึดทรัพย์มาได้เป็นจำนวนเท่าไหร่”