กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยเทรนด์การผลิตเฟอร์นิเจอร์ โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาแรงในกลุ่มประเทศนอร์ดิก หลังมีส่วนช่วยในการปกป้องสิ่งแวดล้อม แนะผู้ประกอบการไทยศึกษา และนำมาปรับใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ มั่นใจมีโอกาสทำตลาดได้เพิ่มขึ้น
วันที่ 17 มกราคม 2567 นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้รับรายงานจากนางสาวณิชพร วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก ถึงผลการสำรวจตลาดเฟอร์นิเจอร์ ที่มีการพัฒนานวัตกรรมวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม ทำให้ตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และโอกาสในการขยายตลาดเฟอร์นิเจอร์ของไทย
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
โดยข้อมูลระบุว่า ปัจจุบันบริษัทผู้ประกอบการนอร์เวย์ ได้มีการพัฒนานวัตกรรมวัตถุดิบเฟอร์นิเจอร์จากธรรมชาติเพิ่มขึ้น เช่น บริษัท Agoprene จากกรุงออสโล พัฒนานวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Biofoam ที่เข้ามาทดแทนโฟมดั้งเดิมที่ผลิตจากพลาสติก เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุบุในเฟอร์นิเจอร์ โดยเริ่มต้นการวิจัยและทดลองจากการใช้เปลือกหอยนางรม บดเป็นผง และเปลี่ยนเป็นวัสดุฟอง ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันกับที่ใช้กับขยะเกษตรกรรม (Agricultural Waste) และเส้นใยไม้ (Wood Fibres) ที่ใช้ในปัจจุบัน
แต่พบปัญหาว่า หลังจากได้ลองใช้วัสดุต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่กลับกลายเป็นโฟมแข็ง ไม่สามารถสร้างความยืดหยุ่นได้ จนในที่สุด ได้ค้นพบวิธีที่สามารถทำให้โฟมยืดหยุ่นได้ คือ การใช้สาหร่ายมาเป็นวัตถุดิบการผลิต โดยแปลงเป็นผงและอบในเตาอบแบบพิเศษ โดยจะสร้างโฟมเป็นลักษณะบล็อก ซึ่งมีความนุ่มเพียงพอสำหรับใช้กับเบาะรองนั่งและเก้าอี้ โดยเป้าหมายของบริษัท คือ การลดการใช้พลาสติกโพลิเมอร์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในชิ้นส่วนการผลิตเฟอร์นิเจอร์ กล่าวคือการพัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นชิ้นส่วนในหมอน โซฟา และเบาะเก้าอี้
ทั้งนี้ โฟมจากสาหร่าย สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ 100% ลูกค้าสามารถทิ้งโฟมนี้ไว้ในดิน และโฟมจะย่อยสลายตามธรรมชาติภายในเวลา 8 เดือน หรือเร็วกว่านั้นหากหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาโอกาสในการขยายปริมาณการผลิตโดยการย้ายไปยังโรงงานผลิตที่ใหญ่ขึ้นในปีหน้า
ขณะเดียวกันมีข้อมูลอีกว่า บริษัทผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์จากเดนมาร์ก คือ Mater ได้ผลิตเก้าอี้และพนักพิงที่ทำจากวัสดุเปลือกเมล็ดกาแฟ และขี้เลื่อยที่เหลือจากการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่อื่น และผลิตเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งที่ทำจากขยะจากมหาสมุทร ส่วนบริษัทเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ของโลก IKEA จากสวีเดน ได้วางนโยบายการใช้เฉพาะวัสดุหมุนเวียนและรีไซเคิลมาใช้เป็นวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์เท่านั้นภายในปี 2573
นายภูสิตกล่าวอีกว่า จากแนวโน้มเฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มประเทศนอร์ดิกที่ให้ความสำคัญกับวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบที่เรียบง่าย และความมุ่งมั่นต่อความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติและอินทรีย์ เช่น สาหร่าย เปลือกเมล็ดกาแฟ และขี้เลื่อย รวมถึงการนำวัสดุอื่น ๆ จากธรรมชาติมาใช้ เช่น ผ้าลินิน ขนสัตว์ และปอ โดยวัสดุเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศสบาย ๆ กับผู้ใช้ด้วย ทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการมากขึ้น
นอกจากนี้ยังพบว่า ในการออกแบบมีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ถอดส่วนประกอบได้ รีไซเคิลได้ ออกแบบที่เรียบง่าย มีการผลิตแบบประหยัดพลังงาน การใช้ไม้จากแหล่งที่ยั่งยืน และไม้ที่ได้รับการรับรอง และนิยมเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับแต่งเข้ากับห้องได้หลายรูปแบบ (Modular Furniture) ซึ่งผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ของไทย หากต้องการเจาะตลาดในกลุ่มประเทศนอร์ดิก ควรจะศึกษารูปแบบการผลิตที่เน้นการใช้วัสดุที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรม หากทำได้ตามนี้ ก็จะมีโอกาสในการส่งออกและทำตลาดได้มากขึ้น
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร. 1169