กรมการค้าภายใน หารือสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดทำ “โครงการเชื่อมโยงปุ๋ยราคาถูกให้แก่เกษตรกร” เฟสที่ 2 เริ่ม 1 เมษายน 2567 นี้
วันที่ 15 มีนาคม 2567 ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมคาดว่าตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป เกษตรกรจะมีความต้องการซื้อปุ๋ยกันมากขึ้น เพื่อเตรียมสำหรับฤดูเพาะปลูกประจำปีนี้
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยเฉพาะการปลูกข้าวนาปีในพื้นที่ภาคกลาง จะเริ่มปลูกในเดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลูกมากในช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน ที่ผ่านมากรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ด้านปริมาณและราคาปุ๋ยอย่างใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 กรมได้ประชุมหารือร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมจัดทำ “โครงการเชื่อมโยงปุ๋ยราคาถูกให้แก่เกษตรกร” เฟสที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2567 นี้
ทั้งนี้ โครงการเฟส 2 นี้ดำเนินการต่อเนื่องจากเฟส 1 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2567 โดยจะเชื่อมโยงปุ๋ยลดราคาจากโรงงานมาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรผ่านสถาบันเกษตรกร และจะทบทวนรายการปุ๋ยที่นำมาลดราคาทั้งหมดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ที่สำคัญยังคงครอบคลุมสูตรปุ๋ยที่ใช้ในการเพาะปลูกพืชทุกชนิดเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นนาข้าว พืชไร่ พืชสวน หรือผลไม้
ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมรายการปุ๋ย ตั้งเป้าให้มีปริมาณปุ๋ยลดราคามากกว่าเฟสแรก โดยเฟสแรกมีปริมาณปุ๋ยเข้าร่วม 3.1 ล้านกระสอบ สามารถช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรได้ถึง 200 ล้านบาท และเชื่อว่าราคาที่ปรับลดจะเทียบเท่าเฟสแรกที่ลดสูงสุดเฉลี่ย 50 บาทต่อกระสอบ
โดยเกษตรกรที่สนใจสามารถสั่งซื้อผ่านสถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิก เช่น สหกรณ์การเกษตร ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน วิสาหกิจชุมชน และแปลงใหญ่ ซึ่งสถาบันเกษตรกรจะเป็นผู้รวบรวมยอด การสั่งซื้อแจ้งไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ในแต่ละพื้นที่
อย่างไรก็ดี เกษตรกรที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสถาบันเกษตรกรอยู่ในขณะนี้ก็สามารถรวมกลุ่มกันซื้อ หรือไปซื้อปุ๋ยจากสถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.dit.go.th
ความต้องการปุ๋ย
กรมการค้าภายในจากการติดตามสถานการณ์ราคาปุ๋ย พบว่า แม้ความต้องการใช้ปุ๋ยทั้งในประเทศและต่างประเทศจะมีมากขึ้นตามช่วงเวลาและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย แต่ด้วยปริมาณปุ๋ยในตลาดโลกที่มีอยู่มาก โดยเฉพาะปุ๋ยยูเรียซึ่งเป็นแม่ปุ๋ยสูตรหลัก ทำให้คาดการณ์ว่าหากไม่มีสถานการณ์แทรกซ้อนใดเกิดขึ้นราคาปุ๋ยในตลาดโลกก็มีแนวโน้มที่จะทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
ในส่วนของไทย ในปี 2566 มีการนำเข้าปุ๋ย 5.08 ล้านตัน มากกว่าปริมาณนำเข้าปี 2565 24% และในช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ยังคงมีการนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สต็อกปุ๋ย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อยู่ที่ 1.08 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูก ไม่มีปัญหาการขาดแคลนปุ๋ยอย่างแน่นอน
จากการติดตามราคาปุ๋ยในปัจจุบัน (ราคาเฉลี่ยภาคกลาง) ก็อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกับของปีที่แล้ว (เดือนมีนาคม 2566) อาทิ
ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ราคาเฉลี่ยกระสอบละ 850 บาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 13%
ปุ๋ยฟอสเฟต (18-46-0) ราคาเฉลี่ยกระสอบละ 1,150 บาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 34%
ปุ๋ยโพแทส (0-0-60) ราคาเฉลี่ยกระสอบละ 950 บาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 42%
ปุ๋ยสูตร 21-0-0 ราคาเฉลี่ยกระสอบละ 530 บาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 22%
ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ราคาเฉลี่ยกระสอบละ 1,020 บาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 22%
ปุ๋ยสูตร 16-20-0 ราคาเฉลี่ยกระสอบละ 880 บาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 24%