WHA Group โชว์ยอดจองหุ้นกู้ล้นเกินเป้ากว่า 3 เท่า

WHA Group
จรีพร จารุกรสกุล

หุ้นกู้ WHA Group 7,000 ล้านบาท ฉลุย นักลงทุนมั่นใจ 4 กลุ่มธุรกิจ ทั้งโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน ดิจิทัล โครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง และแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจนและยั่งยืน

วันที่ 22 มีนาคม 2567 นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA Group กล่าวว่า นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ให้การตอบรับทำให้ยอดจองหุ้นกู้เกินเป้ากว่า 3 เท่า จากที่บริษัทเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2567 ของบริษัทมูลค่า 5,000 ล้านบาท + Greenshoe 2,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท หลังจากที่เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2567 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 3 ราย ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารยูโอบี โดยการเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวได้แบ่งเป็น 3 ชุด

โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 จำนวน 2,500 ล้านบาท มีอายุ 3 ปี 6 เดือน หุ้นกู้ชุดที่ 2 จำนวน 2,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 (หุ้นกู้ที่ไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย/Zero Coupon Bond) จำนวน 2,500 ล้านบาท อายุ 2 ปี 7 เดือน 30 วัน โดยบริษัทมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม และประเทศโดยรวม สำหรับเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปชำระคืนหนี้เดิม และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน/เงินลงทุน/ค่าใช้จ่ายลงทุน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท

ทั้งนี้ หุ้นกู้ของบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ A- แนวโน้ม “คงที่” เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัท จากผลงานที่ได้รับการยอมรับในธุรกิจพัฒนาคลังสินค้า/โรงงานตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-suit Warehouse/ Factory) และธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานรายได้ประจำจำนวนมากที่บริษัทได้รับจากธุรกิจสินทรัพย์ให้เช่า ตลอดจนธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภค และเงินปันผลจากการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้า ตลอดจนความยืดหยุ่นทางการเงินจากการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อีกด้วย

“บริษัทมั่นใจสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้ ปี 2567 และเดินหน้าพัฒนาโซลูชั่นทางธุรกิจและอุตสาหกรรมเพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดึงดูดการลงทุนใหม่ ๆ และร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศไทย”

โดยมีภารกิจสำคัญคือการบรรลุเป้าหมายที่จะเป็น Technology Company อย่างเต็มตัว ด้วยกลยุทธ์ AI Transformation มุ่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ยกระดับการดำเนินงานด้วยข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อคงความเป็นผู้นำในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และต่อยอดโครงการ Digital Transformation ที่มีอยู่กว่า 38 โครงการ

สำหรับกลยุทธ์สำคัญของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในปี 2567 มี 4 ด้าน ประกอบด้วย Extend Leadership เร่งขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งในประเทศและตลาดภูมิภาค Embrace Innovation and Technology นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ ๆ ที่เป็น New S-curve ให้กับองค์กร Enhance the Prominence on Green and Sustainability เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ในปี 2593 (Net-Zero 2050) และ Build High-Performance Organization ด้วยการพัฒนายกระดับด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้เป็นองค์กรสมรรถนะสูง

จากผลการดำเนินงานในปี 2566 ที่ทุบสถิติใหม่สร้างออลไทม์ไฮสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกปี ซึ่งตอกย้ำถึงความสำเร็จจากความมุ่งมั่นของการเป็นผู้นำใน 4 กลุ่มธุรกิจ ทั้งโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน ตลอดจนดิจิทัล ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม บริษัทวางกลยุทธ์ปี 2567 เพื่อมุ่งต่อยอดพันธกิจ “We Shape the Future” เสริมศักยภาพทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจให้แข็งแกร่งครบวงจร

ธุรกิจโลจิสติกส์ มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และขยายธุรกิจในการพัฒนาโครงการ Built-to-Suit และคลังสินค้า/โรงงานคุณภาพสูงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นที่อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อีคอมเมอร์ซ และอุตสาหกรรมที่เป็น New S-curve

นอกจากนี้ยังเสริมศักยภาพด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และการส่งเสริมแนวปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน โดยมีโครงการ Green Logistics ซึ่งจะมีการให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้ารวมถึงแบตเตอรี่เพื่อสนับสนุนและเร่งการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในภาคขนส่งของประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการลดต้นทุนโลจิสติกส์ในระยะยาว รวมถึงการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติไปพร้อม ๆ กัน

สำหรับ Office Solutions บริษัทยังมุ่งมั่นพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานที่ทันสมัย ปัจจุบันมีโครงการอาคารสำนักงานให้เช่า 5 แห่ง พื้นที่รวมมากกว่า 120,000 ตารางเมตร และเริ่มขยายสู่โครงการพาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ ๆ

ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม มุ่งรักษาความเป็นผู้นำในประเทศไทยและขยายธุรกิจในเวียดนามให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อรองรับการย้ายฐานทุนและฐานการผลิตที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเดินหน้าพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์อัจฉริยะ (Smart ECO Industrial Estate) โดยขยายขีดความสามารถให้ครอบคลุม 6 องค์ประกอบสำคัญ คือ Smart Services, Smart Mobility, Smart Communication, Smart Power, Smart Water และ Smart Security ภายใต้การบริหารจัดการโดยศูนย์ควบคุมกลาง Unified Operation Center (UOC) และต่อยอดการเป็น Total Solutions Partner ให้กับลูกค้าด้วยการให้บริการแบบครบวงจร

ธุรกิจสาธารณูปโภค ยังคงมุ่งเน้นธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม และขยายการให้บริการน้ำทุกประเภทในโครงการนิคมใหม่ ๆ ของ WHA และนอกนิคมของ WHA ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเดินหน้าพัฒนา Smart Water Platform และมองหาโอกาสขยายธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ โซลูชั่นสิ่งแวดล้อม และสาธารณูปโภคสำหรับอุตสาหกรรมอื่น มุ่งพัฒนาการให้บริการใหม่ ๆ ที่ครบวงจร

ธุรกิจไฟฟ้า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นด้านพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียน พร้อมทั้งการหาโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจเพื่อสร้าง New S-Curve อาทิ สถานีชาร์จ EV รองรับธุรกิจ Green Logistics ระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ (BESS : Battery Energy Storage Systems) การซื้อขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) และเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage : CCUS)

ธุรกิจดิจิทัล เดินหน้ายกระดับการพัฒนาองค์กรและบุคลากรของบริษัท มุ่งสู่การเป็น Technology Company ในปี 2567 โดยเดินหน้าในการนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนองค์กร ภายใต้ภารกิจ “Mission To The Sun” ผ่าน 9 โครงการในการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล อาทิ โครงการ Green Logistics ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์มที่รวมบริการต่าง ๆ (Geen Mobility Platform) สำหรับลูกค้ายานยนต์ไฟฟ้าภาคธุรกิจ

อาทิ การบริหารยานพาหนะ (Fleet Management) การวางแผนเส้นทาง (Route Optimization) และการเชื่อมโยงโครงข่ายสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า (EV Roaming) เป็นต้น และโครงการ Digital Health Tech ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น WHAbit ที่ช่วยให้สามารถจัดการสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งทางบริษัทมีแผนเริ่มต้นการให้บริการแอปพลิเคชั่นแก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งแรกของปี

พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้ตั้งเป้าดำเนินธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างสมบูรณ์ภายในปี 2593 ผ่านการดำเนินงานภายใต้ 3 หลักการ ได้แก่ Design & Resource, Green Products และ Operation Excellence เพื่อส่งเสริมการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระบบนิเวศของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมแผนการขายทรัพย์สินของบริษัท เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล (กองทรัสต์ WHAIR) ภายในไตรมาส 4/2567 ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้

สุดท้ายนี้ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพในทุกด้านเพื่อการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สอดคล้องกับพันธกิจ “WHA : WE SHAPE THE FUTURE” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้คน สังคม และประเทศไทย