ข่าวดี ราคามะม่วงดีสุดเป็นประวัติการณ์ พันธุ์น้ำดอกไม้ สูงถึง 40 บาท/กก.

กรมการค้าภายในลงพื้นที่ติดตามมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 เกาะติดการรับซื้อมะม่วง พบราคาปีนี้ดีมาก ดีสุดเป็นประวัติการณ์ มะม่วงน้ำดอกไม้ เฉลี่ย 25-40 บาทต่อ กก. พร้อมประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ และมีการเข้าซื้อต่อเนื่อง

วันที่ 28 มีนาคม 2567 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2567 ขณะนี้เข้าสู่ฤดูกาลผลิต พบว่า สถานการณ์ด้านราคาปีนี้ดีมาก ถือว่าราคาดีสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าผลผลิตในภาพรวมจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีปริมาณ 1.3 ล้านตัน เนื่องจากมีความต้องการซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ผลผลิต 1.3 ล้านตัน ปลูกในพื้นที่ภาคเหนือประมาณ 6 แสนตัน หรือคิดเป็น 50% ของผลผลิตทั้งหมด อีก 5 แสนตันปลูกในภาคอีสาน และอีก 2 แสนตัน ปลูกในภาคใต้ ซึ่งผลผลิตส่วนใหญ่เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ และเมืองหลวงของมะม่วงน้ำดอกไม้อยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีปริมาณประมาณ 10% ของผลผลิตในภาพรวม

มะม่วงราคาดี-ดีมาก

ส่วนสถานการณ์ด้านราคามะม่วงน้ำดอกไม้ ปีที่แล้วเกรด A ราคาเฉลี่ยกิโลกรัม (กก.) ละ 25-30 บาท ปีนี้เฉลี่ย กก.ละ 25-40 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ดีมาก และดีเป็นประวัติการณ์ ส่วนมะม่วงน้ำดอกไม้คละ ปีที่แล้วสูงสุดอยู่ที่ กก.ละ 20 บาท ปีนี้สูงสุดอยู่ที่ กก.ละ 25 บาท ถือว่าราคาดีเช่นเดียวกัน ส่วนมะม่วงอื่น ๆ เช่น ฟ้าลั่น โชคอนันต์ เขียวเสวย ราคาดีหมดทุกตัว

โดยฟ้าลั่น ปีที่แล้วเบอร์ 1 อยู่ที่ กก.ละ 8-10 บาท ปีนี้อยู่ที่ กก.ละ 9-11 บาท เกรดคละ กก.ละ 3-5 บาท ปีนี้อยู่ที่ กก.ละ 4-5 บาท โชคอนันต์ ปีที่แล้วอยู่ที่ กก.ละ 10-12 บาท ปีนี้ราคาใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ช่วงผลผลิตออกมาเยอะ ราคาอาจลงบ้าง แต่กรมได้เข้าไปช่วยพยุงราคาไว้ไม่ให้ต่ำกว่าปีที่แล้ว และในบางพื้นที่ ราคาสูงกว่าปีที่แล้ว และเขียวเสวย ปีที่แล้วอยู่ที่ กก.ละ 23 บาท ปีนี้อยู่ที่ กก.ละ 24 บาท

ออกมาตรการช่วยเกษตรกร

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า มาตรการที่กรมได้นำมาใช้ในการดูแลผลผลิตมะม่วงในปีนี้ ได้มีการนำผู้ประกอบการ โรงงานแปรรูป ผู้รวบรวม ผู้ส่งออก ห้างค้าปลีกค้าส่ง เช่น บิ๊กซี แม็คโคร โลตัส ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต เดอะมอลล์ โกโฮล เซลล์ ห้างท้องถิ่น และปั๊มน้ำมัน มาทำเกษตรพันธสัญญากับกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ใน จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร และ จ.สุโขทัย ประมาณ 45,000 ตัน ซึ่งได้มีการส่งมอบไปแล้วกว่า 32,000 ตัน และในส่วนที่เหลือจะทยอยส่งมอบให้ครบถ้วนต่อไป

โดยพี่น้องประชาชน หากพบเห็นมะม่วงที่ไหน ขอให้ช่วยกันซื้อ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร และขอให้เกษตรกรดูแลคุณภาพผลผลิตให้ดี มีคุณภาพ เพื่อให้ขายได้ราคาดีต่อไป

นอกจากนี้ กรมยังได้ร่วมมือกับกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ หรือกลุ่ม YEC ที่จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วง ทั้งการเพิ่มช่องทางการตลาด การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ ทั้งในกระบวนการผลิต การทำตลาด เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับพี่น้องเกษตรกร ตามที่นายภูมิธรรมได้ให้นโยบายในเรื่องการใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร