ราคาน้ำมันดิบ (4 เม.ย. 68) ปรับลด หลังโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังผลิตมากกว่าคาด

oil

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าคาด

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (OPEC+) มีมติเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นไป ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 3 เท่า โดยจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 5 พ.ค. เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับระดับการผลิตในเดือน มิ.ย.

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 3 เม.ย. 68 อยู่ที่ 66.95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.28 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 74.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.28 เหรียญสหรัฐ

มาตรการเก็บภาษีของทรัมป์ ส่งผลให้ตลาดกังวลว่าอาจทำให้เกิดสงครามการค้าโลกที่รุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย เกิดภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงความต้องการเชื้อเพลิงที่ลดลง อย่างไรก็ตาม การนำเข้าน้ำมันก๊าซและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นจะได้รับยกเว้นภาษีศุลกากรใหม่

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับลดลง 5,000 ราย แตะระดับ 219,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดกังวงความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐอาจลดลง เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้เบนซิน หลังต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากการประกาศเก็บภาษีนำเข้าชุดใหม่ของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม สต๊อกน้ำมันเบนซินของสิงคโปร์ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 2 เม.ย. ปรับลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 15.7 ล้านบาร์เรล

ADVERTISMENT

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต๊อกน้ำมันเครื่องบินและดีเซลที่ท่าเรือฟูไจราห์ปรับขึ้น 1.06 ล้านบาร์เรล หรือ 53% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ส่งผลให้สต๊อกแตะที่ระดับ 3.05 ล้านลาร์เรล นอกจากนั้น ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในเอเชียยังคงอ่อนแอ และคาดว่าจะยังคงซบเซาในเดือน เม.ย. และ พ.ค.

ADVERTISMENT