OBOR เส้นทางสายไหม โอกาส SMEs ไทยบุกตลาดจีน

One Belt One Road (OBOR) หรือ เส้นทางสายไหม เป็นนโยบายของจีนที่ต้องการเป็นแกนนำในการสร้างความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจกับต่างประเทศ ด้วยการเชื่อมเส้นทางสายใหม่ทางบก 29 ประเทศ และทางทะเล 36 ประเทศ โดยมีจีนเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อเส้นทาง ผ่านประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศ 5 ภูมิภาค

เป้าหมายสำคัญของนโยบายนี้ หลัก ๆ เช่น เพื่อสร้างและเพิ่มพลังการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเศรษฐกิจระหว่างจีนกับทุกประเทศบนเส้นทาง OBOR การจัดตั้งเครือข่ายเศรษฐกิจและวัฒนธรรม และเกิดการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายทั้งหมด การเสริมสร้างศักยภาพความร่วมมือทางเศรษฐกิจและขยายการทำธุรกิจระหว่างกัน ส่งเสริมการลงทุนและเพิ่มการบริโภค ยกระดับคุณภาพมาตรฐานสูงสุดในทุกประเทศ การเพิ่มอุปสงค์ต่อแรงงานและการสร้างงานสนองความต้องการแรงงานได้อย่างสมดุล เป็นต้น

สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน แม้จะไม่อยู่ในเส้นทางสายไหม แต่สามารถเชื่อมต่อกับเส้นทาง OBOR ได้ทั้งทางบกและทางทะเล ครอบคลุมประชากรกว่า 4,500 ล้านคน โอกาสที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ส่งออก จะใช้โอกาสนี้ในการทำการค้า การส่งออกได้

โอกาสไทยผ่าน OBOR

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยมีความได้เปรียบในการใช้เส้นทาง OBOR ในการสร้างศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ ได้ในพื้นที่อินโดจีน สามารถลดต้นทุนด้านการให้บริการโลจิสติกส์ การขนส่ง และเป็นซัพพลายเชนให้กับผู้ค้า ผู้ส่งออกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไทยเป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางที่ใกล้และสะดวกมาก และเชื่อว่าเมื่อเกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจแล้ว การค้า การลงทุน ด้านการท่องเที่ยว จะขยายตัวมากขึ้น เป็นโอกาสที่ไทยควรรีบคว้าไว้ เพื่อต่อยอดด้านเศรษฐกิจในอนาคต ขณะเดียวกันเอสเอ็มอีไทยควรปรับตัวรองรับเส้นทางสายไหมนี้ เพื่อใช้เป็นโอกาสในการขยายตลาดการค้า การส่งออกในอนาคต

ความต้องการผลไม้ไทยในจีน

นายอุดร คงคาเขตร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด SCG Logistics Management เปิดเผยว่า ขณะนี้ SCG เข้าไปทำตลาดโลจิสติกส์อยู่ในพื้นที่กว่างโจว และเฉิงตู เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังตลาดอื่นในจีนทั้งทางบกและอากาศได้ง่าย และทำให้เห็นว่า โอกาสของสินค้าไทย โดยเฉพาะเรื่องสมุนไพรกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดจีน เนื่องจากจีนมีความชื่นชอบสมุนไพรไทยมาก รวมถึงสินค้าอาหาร ผลไม้สด แปรรูป ดังนั้นหากผู้ส่งออก เอสเอ็มอีที่มีสินค้าอยู่แล้ว ควรใช้โอกาสที่มีในการเข้าทำตลาด โดยเฉพาะผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซได้ แต่ควรสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้สินค้า เช่น การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าให้ดี ช่วยลดต้นทุน และง่ายในการขนส่ง ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการส่งเสริมและพัฒนาในเรื่องนี้ รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ของสินค้า

แก้กฎอำนวยความสะดวกการค้า

นายประเสริฐ ลิ่มประเสริฐ ผู้แทนสมาคมการค้าและการลงทุนเอเชียน-สากล มองว่านโยบายเส้นทางสายไหมของจีนจะทำให้การค้า การส่งออก ขยายตัวมากขึ้น ทั้งทางบก อากาศ และทางทะเล ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรใช้โอกาสนี้ในการทำตลาด โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าไทยไปจีน เนื่องจากการขนส่งจะง่าย สะดวกมากขึ้น ขณะที่ด้านการท่องเที่ยวอนาคตจะยิ่งขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะคนจีนมาเที่ยวไทยได้ง่าย ทั้งนี้ การที่ไทยและจีนมีความสัมพันธ์ที่ดี จะยิ่งมีโอกาสทางการค้า การลงทุนที่ดีขึ้น รวมถึงความรู้ทางวิชาการที่จีนมีการพัฒนาไปมาก จะเป็นโอกาสที่ไทยจะได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์

นอกจากนี้ ไทยควรใช้โอกาสในการแก้ไขปัญหา กฎระเบียบที่ยังไม่เอื้อในการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ส่งออกในเส้นทางสายไหมนี้ โดยเฉพาะการเชื่อมเส้นทางรถไฟ ซึ่งปัจจุบันไทยอยู่ระหว่างพัฒนาเส้นทางรถไฟ กรุงเทพฯ-โคราช-หนองคาย-สปป.ลาว เป็นโอกาสการขยายการขนส่ง ลดต้นทุน ที่จะเชื่อมไปยังเส้นทางสายไหม ทำให้การส่งออกสินค้าขยายไปได้มาก

ช่องทางทำการค้าในจีน

นางซู ยองจุน เลขาธิการสมาคมการค้าส่งเสริมธุรกิจไทยจีนและเอเชียอาคเนย์ เปิดเผยว่า จีนเป็นตลาดใหญ่ ก่อนเข้าไปควรสำรวจความต้องการสินค้าในพื้นที่นั้น ๆ ก่อน เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคในจีนต่างกันมากในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งศึกษาคู่แข่ง และสินค้าในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย ประกอบกับเรื่องของกฎหมาย กฎระเบียบ ต้องยอมรับว่าจีนเคร่งครัดในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า และมาตรฐานของตัวสินค้า ในกลุ่มสินค้ายา สุขภาพ จำเป็นต้องดำเนินการ รวมถึงภาษาที่กำกับในตัวสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ ควรต้องมีภาษาจีนและภาษาอังกฤษ เนื่องจากโอกาสเสี่ยงสูงที่จะถูกก๊อบปี้ และระหว่างการดำเนินการ การทำประชาสัมพันธ์ การสร้างการรับรู้ในตัวสินค้าของลูกค้าต้องดำเนินการควบคู่ไปด้วย

ขณะที่ช่องทางที่ง่ายในการทำตลาดจีนตอนนี้คือ การค้าออนไลน์ ตลาดอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากจีนนิยมทำการค้าผ่านระบบนี้มากขึ้น และเติบโตขึ้นทุกปี และเพื่อรองรับตลาด ลูกค้าจากจีน ไทยต้องพัฒนาเรื่องระบบจ่ายเงิน และการเชื่อมต่อการค้าผ่านระบบออนไลน์ให้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสทางการค้า สินค้า และลูกค้าใหม่ ๆ ได้