ชาวไร่ต้องฟัง! ฤดูผลิต 62/63 รง.น้ำตาลเข้มเกณฑ์รับอ้อยไฟไหม้แค่ 30% ต่อวัน ก.อุตฯมั่นใจลดปัญหาเผาอ้อยใน3ปี

แฟ้มภาพ

กระทรวงอุตสาหกรรมจับมือโรงงานน้ำตาล ร่วมแก้ปัญหา “อ้อยไฟไหม้” กำหนดให้โรงงานน้ำตาลรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบได้ไม่เกิน 30% ต่อวันเริ่มปีการผลิต 62/63 คาดภายใน 3 ปี ไม่มีเผาอ้อย พร้อมอัดเงินช่วยซื้อรถตัดอ้อย 6,000 ล้าน และเตรียมจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิต 50 บาท/ตัน จ่ายรอบแรก เม.ย.นี้

นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้เตรียมนำเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ในภาพรวมทั้งระบบ ประกอบด้วยมาตรการทางกฎหมาย โดยจะมีการออกระเบียบให้ทันในฤดูการผลิตปี 2562/2563 กำหนดให้โรงงานน้ำตาลจะรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบได้ไม่เกิน 30% ต่อวัน สำหรับในฤดูการผลิตปี 2563/2564 โรงงานน้ำตาลจะรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบได้ไม่เกิน 20% ต่อวัน และในฤดูการผลิตปี 2564/2565 จะลดปริมาณอ้อยไฟไหม้เข้าหีบเพียง 0-5% ต่อวัน ซึ่งจะทำให้อ้อยไฟไหม้หมดไปภายใน 3 ปีนับจากนี้

และยังมีมาตรการสนับสนุนให้ชาวไร่ใช้รถตัดอ้อย โดยมีสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร (ระยะที่ 2) ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะสนับสนุนสินเชื่อแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สถาบันชาวไร่อ้อย กลุ่มบุคคล และวิสาหกิจชุมชน ปีละ 2,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท (งบประมาณปี พ.ศ. 2562 – 2564)

โดยจะนำเสนอให้ ครม.เห็นชอบอัตราดอกเบี้ยสำหรับเกษตรกรรายบุคคลอยู่ที่ MRR-5 รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. แทนผู้กู้ในอัตราร้อยละ 4 ต่อปี และ ธ.ก.ส. รับภาระในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี สำหรับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สถาบันชาวไร่อ้อย กลุ่มบุคคล และวิสาหกิจชุมชน คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินการได้
นอกจากนี้ จะนำเสนอมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการรถตัดอ้อยไทยด้วยการเพิ่มศักยภาพการผลิตและจำหน่ายให้เพียงพอกับความต้องการ และส่งเสริมการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน โดยการใช้รถตัดอ้อย และเครื่องจักรกลการเกษตรอื่น ๆ นำไปจดทะเบียนเครื่องจักรตามกฎหมายกับ กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อนำไปเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันกับแหล่งเงินกู้ได้อีกด้วย

“ขณะเดียวกันกระทรวงฯ ยังได้มีมาตรการด้านการบริหารจัดการโดยความร่วมมือจากโรงงานน้ำตาลและชาวไร่อ้อย ในฤดูการผลิตปี 2562/2563 เป็นจังหวัดปลอดการเผาอ้อย ตัดอ้อยสด 100% ในแต่ละภาค รวม 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดเลย และจังหวัดอุตรดิตถ์

สำหรับความก้าวหน้าเกี่ยวกับโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อ ซื้อปัจจัยการผลิต (50 บาทต่อตันอ้อย) ขณะนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณในรอบแรกสำหรับอ้อยที่เข้าหีบในฤดูการผลิตปี 2561/2562 ตั้งแต่ต้นฤดูการจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 โดยมีปริมาณอ้อยที่ขอรับการช่วยเหลือ จำนวน 64 ล้านตัน เป็นเงิน 3,200 ล้านบาท สำหรับจ่ายให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย จำนวน 150,000 ราย โดยจะเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือรอบแรกภายในเดือนเมษายน 2562 ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปิดท้าย