
ครม.ผ่านร่างหลักการช่วยชาวไร่อ้อยฉลุย เตรียมเคาะวงเงิน 10,000 ล้านบาท อีกครั้งในปีཻ หนุนปัจจัยการผลิตให้ต่ำกว่า 100 บาท/ราย ชาวไร่รอรับเงินหลังปิดหีบ มี.ค. 63 กระทรวงอุตสาหกรรมอัดงบฯทุ่ม 800 ล้านบาท อุ้มทั้ง SMEs ดึงพาร์ตเนอร์ TOYOTA-เอกชน ชี้เป้าพัฒนาสินค้าชุมชน พร้อมดันร่าง กม.กองทุน SMEs ประชารัฐ 3,000 ล้าน “ถาวร” แน่
นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) รักษาการรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย เพื่อซื้อปัจจัยการผลิต ฤดูการผลิตปี 2562/2563 โดยวางกรอบวงเงินช่วยเหลือ 10,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยเฉพาะชาวไร่อ้อยรายเล็กให้สามารถเข้าถึงปัจจัยการผลิตที่จำเป็น และมีผลตอบแทนเพียงพอ สำหรับนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพและบรรเทาภาระค่าครองชีพ
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มใช้ 1 เม.ย.66 รับเงินคนละกี่บาทต่อเดือน เช็กที่นี่
- กรมอุตุนิยมวิทยาเตือน 28 จังหวัด พายุฤดูร้อนถล่ม-ฟ้าผ่า-ลูกเห็บตก
- โปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา กลับเข้าดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.
เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ราคาน้ำตาลโลกที่อยู่ในช่วงขาลง บวกกับภาวะเศรษฐกิจและค่าเงินบาทที่แข็งค่าเป็นอย่างมาก ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ฉุดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2562/2563 อยู่ที่ 750 บาท/ตันอ้อย ในระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. อัตราขึ้นลงอยู่ที่ 45 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. โดยระดับความหวานเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 12.51 ซี.ซี.เอส. จะได้รับในอัตราตันละ 862.91 บาท
สำหรับวงเงินที่จะช่วยเหลือชาวไร่อ้อยแต่ละรายนั้น เดิมกำหนดไว้ให้แต่ละรายไม่เท่ากัน แต่จากการหารือแนวทางดังกล่าวยังไม่เหมาะสม ดังนั้น คาดว่าวงเงินแต่ละรายต้องกำหนดใหม่ ซึ่งอย่างน้อยจะต้องได้รายละไม่ต่ำกว่า 100 บาท เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลได้เคยสัญญาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ร่างหลักการดังกล่าวได้ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดจะต้องเข้า ครม.อีกครั้ง เพื่ออนุมัติวงเงิน และกำหนดอัตราวงเงินให้ชาวไร่แต่ละราย คาดว่าสามารถจัดสรรเงินให้ได้ เดือน มี.ค. 2563 หลังการปิดหีบทันทีอีกด้านหนึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมยังเตรียมมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วย
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า ปัจจุบัน SMEs มีจำนวน 2.7 ล้านราย ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ที่ผ่านมามาตรการและการพัฒนาไม่ได้ผลสำเร็จมากนัก คิดเป็น 1% เท่านั้น ดังนั้นในปี 2563 เตรียมใช้งบประมาณกว่า 800 ล้านบาท พัฒนาผู้ประกอบการ 16,200 คน 2,200 กิจการ ให้เกิด 9,600 ผลิตภัณฑ์ ใน 70 กลุ่มคลัสเตอร์ คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 13,000 ล้านบาท
โดยจะเริ่มปรับโครงสร้างภายใน ตั้งกองเกษตรอุตสาหกรรมขึ้นมาใหม่ เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการด้านเกษตรอุตสาหกรรม ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนบทบาทศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมปรับเปลี่ยนการให้บริการของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ITC 4.0) โดยเน้นการบริการที่รวดเร็วตรงเป้าหมายมากขึ้น
ขณะเดียวกันได้ดึง TOYOTA มาเป็นพาร์ตเนอร์รูปแบบพี่เลี่ยงน้อง (big brother) เพื่อสนับสนุนด้านบริหารจัดการ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเปลี่ยนเกษตรกรรูปแบบดั่งเดิม สู่การเป็นผู้ประกอบการ หรือนักธุรกิจเกษตร โดยนำระบบการผลิตและการบริหารจัดการในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจเกษตร เช่น ระบบการผลิตแบบโตโยต้า Toyota Production System (TPS) มาเป็นต้นแบบ พร้อมให้ผู้เชี่ยวชาญอบรม SMEs ด้วย
“สิ่งที่จะเห็นเป็นรูปธรรมใน 3 เดือนแรก จะเห็นการลงพื้นที่ตามศูนย์ภาคมากขึ้น พื้นที่ดังกล่าวจะถูกชี้เป้าว่า SMEs รายใดที่จะต้องพัฒนา และจะเดินหน้าโครงการเดิมและจะเปิดโครงการพัฒนาใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน เชื่อว่าแผนพัฒนา กสอ.จะทำให้ SMEs โตขึ้นแบบดับเบิลเป็น 2 เท่า จาก 2% เป็น 4% เป็นต้น”
นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า กรมลดขั้นตอนการขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือ SMEs ตามแนวทางประชารัฐ ซึ่งมีวงเงิน 3,000 ล้านบาทลง เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กมากขึ้น เพราะหลังจากเปิดให้ SMEs ยื่นขอเมื่อเดือน พ.ย. 2562 มีผู้ยื่นกว่า 800 ราย วงเงิน 2,200 ล้านบาท แต่มียอดการอนุมัติแล้ว 10% ซึ่งกระบวนการพิจารณาที่ใช้เวลา 7-8 เดือน ถูกมองว่าล่าช้า กรมจึงลดขั้นตอน โดยหลังรับคำขอ SMEs จะส่งให้คณะอนุกรรมการกองทุนพิจารณาคุณสมบัติขั้นต้น ขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อส่งให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) วิเคราะห์ และอนุมัติวงเงินได้เลย
“แนวคิดจะผลักดันเป็นกองทุนถาวรพูดกันมานานแล้ว โดยล่าสุดได้เริ่มร่างกฎหมายกองทุน SMEs เตรียมจะเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณา เนื่องจากกระทรวงมีภารกิจสำคัญบริหารเงินกองทุนช่วยเหลือ SMEs ถ้าปรับเปลี่ยนเป็นกองทุนถาวรจะมีเงินเข้ากองทุนเป็นก้อนทุกปี โดยไม่ต้องรอเงินคืนมาหมุน”