“โควิด-19-ภัยแล้ง” ทำตลาดจีนหด คาดฉุดส่งออกไทยทั้งปี -3.3%

Photo by Stringer/Anadolu Agency via Getty Images

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ชี้ ไวรัสโควิด-19และภัยแล้ง ทำตลาดจีนหด คาดฉุดส่งออกไทยทั้งปี -3.3%

นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวถึง สถานการณ์การส่งออกเดือน ม.ค. 2563 มีมูลค่า 19,626 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวจากช่วงเดียวปีที่แล้ว 3.35% โดยการส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 587,494 ล้านบาท หดตัว -4.63% ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 21,181 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว -7.86% และการนำเข้าในรูปของเงินบาทมีมูลค่า 643,511 ล้านบาท หดตัว -14.82%

จึงส่งผลให้เดือน ม.ค. 2563 ประเทศไทยขาดดุลการค้า 1,556 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 56,017 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวที่ -6.3% หนักที่สุด เช่น ข้าว ผัก ผลไม้สด แช่แข็งและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง กุ้งสดแช่แข็งและแปรรูป

แต่ยังคงมีสินค้าที่ยังขยายตัว ได้แก่ น้ำตาลทราย ยางพารา ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เครื่องดื่ม
ส่วนกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวที่ 5.2 % เช่น ทองคำ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว

ทั้งนี้ สรท. คาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2563 เติบโต 0-1% โดยมีปัจจัยบวกจาก 1.ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง หลัง กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 1.25 เป็น 1.00
2.ทิศทางราคาทองคำยังไม่ขึ้นรูปยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 3.ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ยังเป็นอุปสรรคสำคัญ คือ ตลาดหดตัวลงจากผลกระทบ COVID-19 และผลกระทบของภัยแล้ง

และยังคาดว่าสถานการณ์ COVID-19 จะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อการส่งออกและนำเข้าของไทย ภายใต้สมมติฐานว่าถ้าการส่งออกไปจีนได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือเดือน ก.พ. ที่คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดที่ -75% เดือน มี.ค. -50% และเดือน เม.ย.ถึง มิ.ย.ที่ -25% ซึ่งจะทำให้การส่งออกของไทยในช่วงไตรมาส 1/2563 หดตัวประมาณ -3.6% ไตรมาส 2/2563 หดตัวประมาณ -2.91% และครึ่งปีหลัง 2563 หดตัวประมาณ -3.3%

ดังนี้ เอกชนถึงเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ด้านต้นทุนการเงิน กับทางสถาบันการเงินและกระทรวงการคลัง คือ

1.เน้นการปล่อยสินเชื่อ

2.การหยุดพักชำระหนี้ธนาคารและค่าธรรมเนียมต่างๆ

3.การยกเว้นภาษีสรรพสามิตและภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

4.การชะลอการเรียกเก็บภาษีใหม่ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจด้านการตลาดและโลจิสติกส์ (กระทรวงพาณิชย์/กระทรวงคมนาคม)

  • .กระทรวงพาณิชย์ ควรจัดให้มีทีม Social Media หรือ Call Center เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสอบถามและรายงานสถานการณ์ปัจจุบัน
  • เพิ่มความถี่การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (Thailand Exhibition) 3.ควรประสานขอความร่วมมือกับรัฐบาลจีน เพื่อผ่อนปรนกฎระเบียบการนำเข้าและส่งออกสินค้า ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • เร่งเจรจาเขตการค้าเสรี FTA เพื่อชดเชยการพึ่งพาตลาดจีน 5.กำกับดูแลให้สายเรือขนส่งสินค้าจัดหาตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสินค้าให้เพียงพอ
  • จัดหาบริการขนส่งสินค้าทางอากาศในลักษณะเช่าเหมาลำ (Charter Flight – Freighter) เพื่อรองรับความต้องการขนส่งสินค้า
  • เตรียมความพร้อมท่าเรือของไทยรองรับความต้องการขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออกไปยังประเทศจีน