พาณิชย์-เกษตร ผนึกกำลังรับมือส่งออกอาหารช่วงวิกฤต อุ้มอุตสาหกรรม 8 แสนล้าน

“จุรินทร์”นำคณะพาณิชย์-เกษตรฯ ร่วมหารือเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ส่งออกอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป วางแผนรับมือวิกฤต และแผนผลักดันการส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร  พร้อมเร่งสร้างความเชื่อมั่นในอาหารไทยช่วยเหลือผู้ส่งออก เกษตรกร

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยระหว่างการนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมร่วมกับเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ส่งออกอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป อาทิ ประธานกลุ่มผู้ผลิตอาหารทะเล ประธานกลุ่มผัก-ผลไม้ ประธานกลุ่มเครื่องปรุงรส กลุ่มสับปะรด ข้าวโพดหวานและเกษตรกร เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาช่วงสถานการณ์โควิด ว่า การประชุมร่วมหารือครั้งนี้มีเป้าหมายในการเตรียมการรับมือปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการค้า การส่งออก  โดยที่ประชุมเห็นด้วยในแผนรับมือและผลักดันการส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร  เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพราะกลุ่มอุตสหกรรมดัวงกล่าวเป็นกลุ่มที่ยังเติบโตในช่วงวิกฤต

สำหรับมาตรการรับมือ  เช่น  กระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนเร่งประชาสัมพันธ์และทำการส่งเสริมการขายสร้างภาพลักษณ์อาหารไทยในตลาดโลก โดยจัดทำคลิป 10 ภาษาเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อาหารไทยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค  มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลก ร่วมหารือเอกชนทุกเดือนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาด กำหนดแผนการทำตลาดใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปและอาหารแปรรูป โดยเฉพาะ SME มีโอกาสในการทำตลาด  เร่งรัดในการเจรจาจัดทำ FTA กับสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรของประเทศอังกฤษต่อไปโดยเร็ว จัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพในการเป็นช่องทางระบายสินค้าด้านการเกษตรให้กับเกษตรกรรวมทั้งผู้ผลิตแปรรูปและผู้ส่งออกได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

เร่งรัดแก้ไขปัญหาในเรื่องของการขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูป ไม่ว่าทางอากาศทางเรือ  ทางบก  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  การส่งออกสินค้าทางบกผ่านเวียดนามและลาวไปจีน ยังคงติดขัด โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพื่อเร่งระบายสินค้าไปในด่านต่างๆให้เร็วขึ้น ใช้กลไกเกษตรพันธสัญญา เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจ  ส่งเสริมการบริโภคน้ำผลไม้ 100% และแก้ไขเรื่องของภาษีสรรพสามิตที่ยังกำหนดเก็บภาษีในรูปแบบภาษีความหวาน  ซึ่งเป็นต้นทุนทางการค้า กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับภาคเอกชน ใช้ห้องเย็นที่มีอยู่ 600 กว่าแห่งในประเทศให้เป็นประโยชน์ในการชะลอพืชผลทางการเกษตรสำคัญที่จะออกสู่ตลาดและมีผลกระทบทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำให้มากขึ้น  และขณะนี้การส่งออกสับปะรดกระป๋องไปออสเตรเลียมีปัญหาในเรื่องของการตั้งกำแพงภาษีค่อนข้างสูง กับการส่งออกข้าวโพดหวานกระป๋องไปตลาดสหภาพยุโรป ต้องการให้หน่วยงานเจรจาเรื่องนี้

สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูปและแปรรูป  ปี 2562 มูลค่ารวมกัน 870,000 ล้านบาท ปริมาณการผลิต  บริโภคในประเทศ  84%  ส่งออก 16%  สำหรับการส่งออกปี 2562 มีมูลค่า 579,000 ล้านบาท  คิดเป็น 7.6%  ของการส่งออกรวมทั้งหมด อุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูปและแปรรูปของประเทศไทยนั้น ถือเป็นผู้ส่งออกเป็นอันดับ 10 ของโลก  ส่วนการส่งออกไตรมาสแรกของปี 2563 นี้  การส่งออกอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูปและแปรรูป  มีมูลค่า 137,756 ล้านบาท  สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการส่งออก  เช่น  อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป สับปะรดกระป๋อง  ผลิตภัณฑ์กะทิ และข้าวโพดหวาน  เป็นต้น