บางจากปล่อยมินิบิ๊กซีหมดอายุ ไม่ต่อสัญญาดึง”สพาร์”เสียบแทน166ปั๊ม

ขยายสาขา – บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้าจะขยายสถานีบริการน้ำมันอีก 100 แห่ง บนถนนสายหลักและในหัวเมืองใหญ่ และขยายสาขาซูเปอร์มาร์เก็ตสพาร์เพิ่ม หลังจากได้ผลตอบรับที่ดี รวมถึงภาพลักษณ์ดูมีความทันสมัยมากขึ้น

บางจากไม่ไปต่อกับมินิบิ๊กซี ปล่อย 166 แห่งในปั๊มหมดอายุสัญญา ขยายซูเปอร์มาร์เก็ต “สพาร์” แทน ด้านจำนวนปั๊มถูกพีทีจีเบียดร่วงมาอยู่อันดับ 2 แต่ยังครองมาร์เก็ตแชร์ไว้ได้ที่ 9.6% จ่อขยายปั๊มเพิ่ม 100 แห่งในปีนี้

หลังจากบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับสิทธิ์เพียงรายเดียวในการขยายซูเปอร์มาร์เก็ตแบรนด์”สพาร์” จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อปลายปี 2559 มีการจับตาว่า ร้านสะดวกซื้อ “ใบจาก” และร้านซูเปอร์มาร์เก็ต “มินิบิ๊กซี” จะมีทิศทางอย่างไร โดยก่อนหน้านี้ นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ซึ่งขณะนั้นนั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด (ปัจจุบันตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน) เคยระบุว่า ได้ปิดร้านสะดวกซื้อใบจากเปลี่ยนมาเป็นมินิบิ๊กซีของบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ข้อตกลง Mutually Exclusive Agreement ไปแล้วรวม 166 สาขา

แหล่งข่าววงการค้าปลีกน้ำมันเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บางจากได้พิจารณาไม่ขยายมินิบิ๊กซีในสถานีบริการน้ำมัน เนื่องจาก 1) มินิบิ๊กซีในสถานีบริการน้ำมันไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร รวมถึงบริษัท บิ๊กซีฯไม่มีความเชี่ยวชาญในการขยายซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก และ 2) บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ มีการเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ และมีความเป็นไปได้ที่บริษัทแม่ในต่างประเทศจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศที่ทำรายได้ให้มากกว่า ส่วนกรณีที่ 2 บริษัทมีสัญญาร่วมกันนั้น ในทางปฏิบัติสามารถยกเลิกได้ หากทั้ง 2 ฝ่ายมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ปัจจุบันมีมินิบิ๊กซีในสถานีบริการบางจาก ประมาณ 166 แห่งนั้น และยังคงดำเนินการต่อไปจนกว่าจะหมดอายุสัญญา

ทั้งนี้ บางจากมีนโยบายชัดเจนจะขยายซูเปอร์มาร์เก็ตสพาร์ ทดแทนอีก 55 แห่ง หลังขยายสาขาไป 25 แห่ง ได้รับผลตอบรับที่ดีในแง่ของยอดขาย รวมถึงภาพลักษณ์ก็ดูมีความทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ บางจากยังให้บริการอื่น ๆ ทั้งร้านกาแฟอินทนิล ร้านเบเกอรี่และอื่น ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการหลากหลาย

“ค้าปลีกธุรกิจน้ำมันและธุรกิจเสริมมีการแข่งขันที่รุนแรง ผู้ค้าน้ำมันหลายรายก็มีการลองผิดลองถูกว่า แบรนด์ใดที่จะถูกใจลูกค้ามากที่สุด ซึ่งทั้งร้านใบจาก และซูเปอร์มาร์เก็ตมินิบิ๊กซี อาจจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า จึงต้องปรับเปลี่ยนให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ได้มากที่สุดเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ เพราะปัจจุบันผู้ค้าน้ำมันทุกรายต่างก็มาให้ความสำคัญกับธุรกิจเสริมมากขึ้น เพื่อทดแทนกับมาร์จิ้นที่ค่อนข้างน้อย”

ด้านนายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจาก “ไม่มีนโยบาย” ขยายซูเปอร์มาร์เก็ตมินิบิ๊กซี ในสถานีบริการน้ำมันของบางจากแล้ว และมาให้ความสำคัญกับสพาร์ ที่ได้สิทธิ์ในการใช้แบรนด์ดังกล่าวเพียงรายเดียวทั้งในประเทศ ไปจนถึงกลุ่มประเทศ CLMV คือ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนามด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงแผนลงทุนของบางจากในปีนี้ว่า จะใช้เงินลงทุนประมาณ 185,000 ล้านบาท สำหรับขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยในส่วนของธุรกิจการตลาด ตั้งเป้าที่จะขยายสถานีบริการน้ำมันอีก 100 แห่ง บนถนนสายหลักและในหัวเมืองใหญ่

ปัจจุบันบางจากมีสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ (ไตรมาส 2 ปี”60) รวมทั้งสิ้น 1,082 แห่ง เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 รวม 7 แห่ง จากที่มีอยู่ 1,075 แห่ง ทั้งนี้ สำหรับส่วนแบ่งทางการตลาด (market share) ของผู้ค้าน้ำมันในเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมานั้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 39 รองลงมาคือ บางจาก ที่ร้อยละ 9.6 บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด ร้อยละ 9.3 บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ร้อยละ 8.3 และบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ร้อยละ 6.3 ส่วนจำนวนสถานีบริการ ปตท.ยังคงมีจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 รวม 1,721 แห่ง อันดับ 2 บริษัท พีทีจีเอ็นเนอยี่ จำกัด (มหาชน) รวม 1,506 แห่ง อันดับ 3 บางจาก รวม 1,082 แห่ง อันดับ 4 เอสโซ่ รวม 542 แห่ง อันดับ 5 เชลล์ 507 แห่ง และอันดับ 6เชฟรอน (ไทย) รวม 369 แห่ง