เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.30 น. ณ ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล
โดยที่ประชุมได้เห็นชอบข้อเสนอโครงการบริหารเศรษฐกิจระยะปานกลางและระยะยาว ชุดที่ 2 เสนอโดยคณะอนุกรรมการวิเคราะห์และเสนอแนะมาตรการบริหารเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนในระยะปานกลางและระยะยาว ประกอบด้วยโครงการที่ควรได้รับการส่งเสริมแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่มประกอบด้วย
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
(1) การขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตสาหกรรมยานพาหนะไฟฟ้าเพื่อให้ประเทศไทยเป็นเมืองสะอาด อาทิ โครงการรถแลกแจกแถม (รถเก่าแลกรถใหม่ 100,000 คัน) โครงการจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทยชนะ และโครงการจัดหารถโดยสารเพื่อประชาชนของ ขสมก. โดยการเช่ารถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้า เป็นต้น
(2) การส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อาทิ การกระตุ้นตลาดเครื่องมือแพทย์ในประเทศอย่างเร่งด่วน การพัฒนามาตรฐานและการรับรองคุณภาพ ระดับสากลเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด และการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรม
(3) การส่งเสริมการจ้างงาน อาทิการเสริมสร้างการจ้างงานในภูมิลำเนา โครงการบริบาลชุมชนระดับหมู่บ้าน และการส่งเสริมการใช้อินเทอร์เน็ตประชารัฐ เป็นต้น
(4) การสนับสนุนการเดินทำงเข้ามาประเทศไทยของชาวต่างชาติ อาทิ การผ่อนปรนกฎเกณฑ์การขอสินเชื่อของชาวต่างชาติการเพิ่มจำนวนสถานที่กักตัวทางเลือก(Alternative State Quarantine: ASQ) และการจัดตั้งสถานที่กักกันแรงงานต่างด้าวใน 11 จังหวัด เป็นต้น
(5) การบริหำรจัดการภาครัฐด้านการเงินและการค้าระหว่างประเทศ อาทิ การจัดทำข้อมูลด้านทรัพยากรการเงินของประเทศ และการรักษาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นต้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือรายละเอียดมาตรการ/โครงการ แหล่งเงินและแนวทางการเร่งรัดขับเคลื่อนให้เป็นไปอย่างเหมาะสมต่อไป