“พีทีจี – กฟผ.” เปิดตัวสถานีชาร์จ EV ในปั๊ม PT แห่งแรกที่โคราช

พีทีจี – กฟผ. ผนึกกำลัง รองรับการพัฒนาและขยายอุตสาหกรรม EV ของไทย ร่วมสร้างคุณภาพอากาศที่ดี เปิดตัว 5 สถานีอัดประจุไฟฟ้ EleX by EGAT เป็นครั้งแรกในไทย โชว์ชาร์จไฟรถ EV คันแรก ณ สถานีบริการน้ำมัน พีที สาขาปากช่อง 3 จังหวัดนครราชสีมา

วันที่ 16 มีนาคม 2564 นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า พีทีจี ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดตัวสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT สถานีแรกในประเทศไทย ภายในงาน GRAND OPENING PT x EleX by EGAT”CHARGING THE EVOLUTION” รวมพลังสู่อนาคต ณ สถานีบริการน้ำมัน พีที สาขาปากช่อง 3 จังหวัดนครราชสีมา

สถานีบริการน้ำมัน พีที ที่ได้ร่วมกับ กฟผ. ได้ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้ EleX by EGAT พร้อมเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นตันไป มีจำนวนทั้งสิ้น 5 สถานี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในการเดินทางไปยังทุกภูมิภาคทั่วไทย ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน พีทีสาขาปากช่อง 3 จังหวัดนครราชสีมา, สาขาเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี, สาขาพยุหะคีรี 2 จังหวัดนครสวรรค์, สาขาบางพระ จังหวัดชลบุรี และ สาขาบ้านใต้ จังหวัดกาญจนบุรี

“เป้าหมายในปี 2564 นี้ เราจะขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ให้ได้ 13-15 สถานี แต่อนาคตหากการใช้รถ EV เติบโต ความต้องการใช้เพิ่มขึ้น พีทีจี ก็พร้อมขยายสถานีเพื่อรองรับ เป้าหมายแรก 50 สถานี หรือ 100-150 กม. จะต้องมีสถานีให้บริการ คาดงบประมาณอยู่ที่ 200 ล้านบาท ส่วนแผนการตลาด พีทีจี ร่วม กฟผ.ดำเนินการเต็มที่”

ปัจจุบัน พีทีจี มีสถานีบริการน้ำมันมากกว่า 2,100 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ และมีจำนวนสถานีมากเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ จึงพร้อมสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศให้มากขึ้นโดยมุ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในเมืองและนอกเมือง เพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงให้ผู้ใช้งานทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” ในทุกด้านของช่วงชีวิต

นายบุญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้ฝ่ายผลิตแห่งประทศไทย (กฟผ) กล่าวว่า ในวันนี้ กฟผ. พร้อมที่จะนำความรู้ความสามารถให้บริการประชาชน ภายใต้ธุรกิจใหม่ของ กฟผ. EGAT EV Business Solutions โดยเปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า Ele X by EGAT ที่มุ่งสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยความรวดเร็วในการชาร์จไฟแบบ DC Fast Charge ที่สามารถจ่ายไฟได้ถึง 120 kW ภายในเวลาประมาณ 15 – 30 นาที และยังมีการชาร์จแบบ AC Normal Charge ที่สามารถชาร์จและรองรับรถยนต์ EV ได้ทุกค่าย สำหรับการคิดค่าบริการนั้น จะให้บริการฟรีจนถึงเมษายน 2564 หลังจากนั้นจะคิดอย่างไร อยู่ระหว่างการวางแผนต่อไป

รวมถึงมุ่งสร้างความปลอดภัยให้กับรถ EV ที่เข้ามาใช้บริการ ด้วยการใช้เครื่องชาร์จคุณภาพสูง ได้มาตรฐานระดับสากล ทำให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ตลอดการเดินทาง

นอกจากนี้ ภายในปี 2564 กฟผ. ยังตั้งเป้าหมายขยายพื้นที่ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าไปยังสถานีบริการน้ำมัน พีที อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมทุกการเดินทางและรองรับผู้ใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ เพื่อร่วมสร้างสังคมแห่งการเดินทางยุคใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เดินทาง เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้แก่คนไทย

ด้านนางสาวนันธิกา ทั้งสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมธุรกิจพลังงานดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ ซึ่งหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญคือการส่งเสริมพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในส่วนของยานยนต์ไฟฟ้านั้น ก็ได้สนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน ทั้งในส่วนของการออกระเบียบ ประกาศ และข้อกำหนด เรื่องความปลอดภัยของการติดตั้งสถานีอัดประจุในสถานีบริการเซื้อเพลิง

ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ ทางกรมฯจะเข้าไปมีบทบาทมากขึ้น ในการกำกับดูแล รวมถึงการขอใบอนุญาตประกอบกิจการสถานีอัดประจุในสถานีบริการเชื้อเพลิง เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสนับสนุนให้เกิด
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตด้วย

สำหรับความร่วมมือระหว่าง พีทีจี กฟผ.ในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่สำคัญของประเทศไทย ที่สถานีอัดประจุไฟฟ้ EleX by EGAT ซึ่งถูกพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานไฟฟ้าจากทาง กฟผ. ได้ผนวกรวมอยู่ในสถานีบริการน้ำมันของ พีที ที่เชี่ยวชาญด้านการให้บริการที่ครบวงจรด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและการบริการที่เต็มพลัง โดยจะเป็นอีกหนึ่งโครงสร้างพื้นฐานด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญ ช่วยแก้ไขปัญหาของผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้ผู้ใช้มีความมั่นใจและกล้าตัดสินใจเลือกใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการเดินทางมากยิ่งขึ้น

รวมถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่จังหวัดนครราชสีมาแห่งนี้ ยังอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของการคมนาคมขนส่งในการเดินทาง ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือ เขาใหญ่ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าในเส้นทางนี้ ที่คาดว่าจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตได้ด้วย

​