“สมคิด”ลั่นเศรษฐกิจปี61 “สดใส”เร่งปิดจุดอ่อนคนจน-เร่งรัดโครงสร้างพื้นฐาน-เข้าสู่ยุคดิจิทัล

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ที่ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมมนาแห่งปี THAILAND 2018 จุดเปลี่ยนและความท้าทาย จัดโดยหนังสือพิมพ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ตอนหนึ่ง ว่าปี 2018 จะเป็นปีพิเศษ เป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลง เป็นปีแห่งความพลิกผัน นิตรสารต่างประเทศขึ้นปกประเทศไทยปีแห่ง “เทรินนิ่งพอยท์” ผมเชื่อว่า ปี 2018 จะเป็นปีแห่งโอกาสสำหรับคนไทยและประเทศไทยให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง

หากมองจากปัจจัยจากข้างนอก เช่น การประชุมเวทีเอเปกและอาเซียนซัมมิต ระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สาระหลักในการประชุมดังกล่าว จากเดิมการตกลงความร่วมมือจะเป็นลักษณะอาเซียนบวก 3 อาเซียนบวก 6 แต่ครั้งนี้ จะเป็นลักษณะอาเซียน บวก 1 เช่น อาเซียน + สหรัฐ อาเซียน + แคนนาดา อาเซียน+อียู ไม่รวมถึงอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยมีอาเซียนอยู่ตรงกลาง

“เป็นพยายามของประเทศยักษ์ใหญ่เพื่อเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคอาเซียน พยามนำตัวเองเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในภูมิภาคอาเซียนเพื่อพบปะพูดคุยและผูกพันเป็นพันธมิตรแห่งอนาคตร่วมกัน”

@ 3 ปัจจัยท้าทาย

นายสมคิดกล่าวว่า ปี 2018 จะเป็นปีที่ประเทศไทยมีโอกาสสูงมาก ถ้าเรารู้จักดูแลตัวเอง โอกาสเปิดแล้ว หน้าต่างเปิดแล้ว แต่ไม่ได้เปิดตลอดไป ต้องอาศัยจังหวะและสามารถคว้าโอกาสนั้นมาได้ ประเทศไทยจะสามารถสร้างฐานแห่งอนาคตได้ เพราะฉะนั้นการจะทำให้โอกาสนั้นเป็นความจริงขึ้นมาได้นั้น ข้อ 1 ตัวเองต้องแข็งแรงเสียก่อน ถ้าอ่อนแอ ไม่มีใครมองไทยแน่นอน ข้อ 2 มีผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียว และข้อ 3 แข็งแรงอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องเขยื้อนตัวเราให้เร็ว Move Fast เคลื่อนให้เร็วก็ประเทศอื่นและเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้องด้วยเพื่อดักทางแห่งอนาคต เพราะประเทศเวียดนาม อินโดนีเซียและทุกประเทศแข่งขันกันรุนแรงมาก เรียกได้ว่าเฉือนกันที่ปลายจมูก

“ถ้าไม่เปลี่ยนตัวเองให้เร็ว จมปลักโคลนเก่าๆ เราจะไม่มีอนาคตเลย”

@ ปลดล็อกเงินท้องถิ่น 2 แสนล้าน

นายสมคิดกล่าวว่า ในปี 2018 รัฐบาลจะใช้โอกาสที่มีอยู่ โดยให้ข้างล่างมีเงินหมุน มีงานทำ รากหญ้านอกเหนือจากเกษตรกรคือ ท้องถิ่น งบประมาณท้องถิ่น 2 แสนกว่าล้านบาท ต้องปลดล็อกให้ท้องถิ่น ให้ อบต. อบจ. คิดโครงการดีๆ เพื่อพัฒนาท้องถิ่น จ้างงาน ดูแลท่องเที่ยวชุมชน ดูแลวิสาหกิจชุมชน ดูแลผู้สูงอายุ
“ปีหน้ารัฐบาลต้องการให้เงินจะลงไปสู่รากหญ้าให้มาก เพราะฉะนั้นเงินจะลงไปสู่ท้องถิ่นมากและเกิดการหมุนเวียน”

@ ซุ่มหามาตรการ “หายจน”

นายสมคิดกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลจะทำต่อไปเพื่อให้ข้างล่างขับเคลื่อนได้ คือ บัตรคนจน เป็นนวัตกรรม เป็นครั้งแรกที่เป็นบัตรที่ทำให้รู้ข้อมูลคนจน ได้ให้การบ้าน ธ.ก.ส.ให้มีโครงการที่ให้เกษตรกรมีรายได้เสริม ผ่านการจ้างผลิตพืชผลอื่นนอกเหนือจากข้าวและยางพารา เช่น กล้วยหอม มะพร้าว ไม่บังคับ แต่เมื่อมาร่วมโครงการ ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงและขายสินค้าในร้านค้าโมเดินร์เทรดและร้านธงฟ้าประชารัฐ เพราะฉะนั้นปีหน้ารัฐบาลต้องอุดช่องว่างเพื่อให้ท้องถิ่นเข้มแข็งขึ้น

“ได้หารือกับกระทรวงการคลังแล้วว่า กำลังจะมีมาตรการแก้จนให้หายจน ขอให้ติดตามดูว่าจะเป็นมาตรการอะไร”

@ จัมป์สตาร์ทเมกะโปรเจ็กต์

นายสมคิดกล่าวว่า ขณะที่โครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการอีอีซี โครงการใหญ่ 3-4 โครงการจะต้อง “จัมพ์สตาร์ท” เพื่อให้เกิดการประมูลได้ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูง สนามบินและท่าเรือ

“ปีหน้าโครงการอินเทอร์เน็ตจะครบทุกหมู่บ้าน เป้าหมายทุกโรงเรียน วัด สาธารณสุขเพื่อค้นคว้าข้อมูลและความรู้ เพื่อรองรับอนาคตข้างหน้าที่เป็นการสื่อสารผ่านออนไลน์ ค้าขายออนไลน์ โลจิสติกส์และฟินเทค”

ฉะนั้นในปี 2018 สิ่งที่รัฐบาลจะขับเคลื่อน ได้แก่ 1.อุดช่องโหว่คนจน 2.เร่งรัดโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต 3.โครงสร้างพื้นฐานระบบดิจิทัล ปีหน้าฟ้าสดใสกว่าปีนี้ ถ้าเราช่วยกันแต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยประเทศไทยจะถูกทิ้ง

“คนไทยหยุดด่า หยุดการเอาชนะกัน การเมืองที่สร้างสรรค์จะสามารถสร้างชาติได้ โอกาสสามารถใช้การเมืองเข้ามาสร้างสรรค์ แต่ถ้ามีแต่การเมืองเชิงทำลาย มือ 2 ข้างสามารถสร้างโอกาสก็ได้และสามารถทำลายโอกาสก็ได้ เพราะฉะนั้นขอให้มีสติ เพราะปี 2018 เป็นปีที่สำคัญ ไม่ใช่ปีแห่งการห้ำหั่นกัน ต้องสามัคคีกัน ก้าวข้ามให้ได้”

“ขอให้มั่นใจว่า ปี 2018 ดีแน่นอน”