น้ำเหนือมีแนวโน้มลดลง กรมชลประทานปรับลดน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ไม่ให้เกิน 2,700 ลบ.ม./วินาที ลดผลกระทบพื้นที่ตอนล่าง พร้อมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้ผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มอบถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
วันที่ 2 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวโน้มสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนเริ่มคลี่คลาย น้ำที่มาจาก จ.สุโขทัย ผ่านแม่น้ำยมถูกผันเข้าไปเก็บไว้ในทุ่งบางระกำได้เกือบ 400 ล้าน ลบ.ม. แล้ว ส่วนน้ำจากฝั่งแม่น้ำน่าน และแม่น้ำยม บริเวณ จ.นครสวรรค์ ถูกผลักเข้าไปเก็บไว้ในบึงบอระเพ็ดได้ราว 200 ล้าน ลบ.ม. ช่วยลดปริมาณน้ำหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำจะทยอยลดลงในระยะต่อไป
สำหรับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ฝั่งคลองชัยนาท-ป่าสัก (ฝั่งตะวันออก) ไม่ได้มีการรับน้ำเข้า เพราะน้ำจาก อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ และ อ.บ้านหมี่ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ยังมีอยู่มาก แต่จะเพิ่มการระบายน้ำฝั่งตะวันตกทางแม่น้ำท่าจีนเพิ่ม เพื่อหน่วงน้ำฝั่งตะวันตกไว้
จากสถานการณ์ดังกล่าว กรมชลประทานได้ปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ไม่ให้เกิน 2,700 ลบ.ม./วินาที หรืออาจจะเกินบ้างเล็กน้อยหากมีฝนตกลงมา แต่จะพยายามระบายน้ำไม่ให้เกินจากนี้ เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ตอนล่าง ควบคู่ไปกับการเร่งระบายน้ำให้ออกสู่ทะเลให้ได้มากที่สุด
ด้าน นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายอภิรักษ์ ศรีกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่มอบสิ่งของสำหรับการอุปโภค บริโภค แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ตามข้อสั่งการของ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน
ทั้งนี้ ได้พบปะพูดคุยและให้กำลังใจพี่น้องประชาชน และมอบถุงยังชีพ ได้แก่ น้ำดื่ม ข้าวสาร นมกล่องพร้อมดื่มและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวม 176 ครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วย ชาวบ้านหมู่ 1 ตำบลแก่งเสือเต้น จำนวน 118 ครัวเรือน และหมู่ 3 บ้านหนองกรด จำนวน 58 ครัวเรือน