สัมภาษณ์
ท่ามกลางภาวะการแพร่ระบาดของโควิด แต่ธุรกิจอาหารยังเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดี สะท้อนจากการขยายไลน์ของบริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง ภายใต้แบรนด์ “ข้าวตราไก่แจ้” ที่ต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่อาหารสุขภาพกลุ่มธัญพืช และเครื่องประกอบอาหาร
ซึ่งมาปีนี้ “ข้าวตราไก่แจ้” ประเดิมศักราชใหม่ด้วยการลอนช์ผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้า “เติมไทย” ออกสู่ตลาด ต่อยอดธุรกิจโดยไม่หวั่นวิกฤตโอมิครอน “ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ “ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล” กรรมการผู้จัดการถึงโอกาสทางธุรกิจในปีนี้ว่า
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- แจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท จุลพันธ์ชงบอร์ดชุดใหญ่ 27 มี.ค.นี้
- เปิดไทม์ไลน์ แจกเงิน 10,000 ลงทะเบียนเมื่อไหร่ เงื่อนไขเป็นยังไง
จุดเริ่มต้นผลิตภัณฑ์ใหม่
“ผมมองเห็นโอกาสน้ำปลาร้าบรรจุขวด ต่อให้ตอนนี้มีหลายแบรนด์ในตลาด แต่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก สำคัญที่สุดคือ ทำอย่างไรจะให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัย มาตรฐานการผลิตต้องมี และต้องสามารถส่งออกทั่วโลก นั่นคือสิ่งที่กำลังผลักดัน รวมถึงรสชาติที่ต้องตอบโจทย์ผู้บริโภค คนไทยกินแล้วนัว มันเป็นโอกาสที่จะขยายตลาดได้อีกมาก”
“การผลิตน้ำปลาร้าเติมไทย ให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ตั้งแต่วัตถุดิบที่เสาะหาจากแหล่งที่ได้คุณภาพคัดสรรทุกแห่ง มีทีมวิจัยและพัฒนาคอยตรวจสอบให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด และรสชาติต้องแซ่บนัวถูกปากผู้บริโภค”
วันนี้สินค้าไทยเป็นที่ต้องการของทั่วโลก อยู่ใน 5 อันดับของอาหารที่ชาวต่างประเทศนิยม ฉะนั้นวัตถุดิบต่าง ๆ เสิร์ฟได้หมด สิ่งที่ทำไม่ได้เน้นรองรับผู้บริโภคแค่คนไทย เพราะในอาเซียน ในประเทศตะวันตกส่วนมากรู้จักอาหารไทย วัตถุดิบที่ขยายไลน์ออกมาจึงตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ถ้าอยากทำผัดไทยกินเองต้องใช้ซอสใช้เครื่องปรุงอะไรบ้าง ซึ่งตรงนี้เป็นโอกาสของผลิตภัณฑ์แบรนด์เติมไทย
วิกฤตโควิดต่อตลาดข้าวถุง
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับธุรกิจจำนวนมาก แต่สำหรับข้าวตราไก่แจ้กลับสวนกระแส เดินหน้าขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งรับบุคลากรเข้าองค์กรอย่างต่อเนื่อง บนฐานความคิดที่ว่า ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตอย่างไร คนยังต้องกินต้องใช้ โลกยังต้องหมุนต่อ จะไม่เอาปัญหานั้นมาทำให้ท้อจนถอย
“ความที่เป็นผลิตภัณฑ์สายอาหาร จึงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่มากนัก จริงอยู่ว่าลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านค้า ได้รับผลกระทบ แต่ได้ลูกค้ากลุ่มครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น เพราะคนหันกลับมากินข้าวที่บ้านมากขึ้น ทำอาหารเองมากขึ้น”
ขณะเดียวกันได้ขยายการส่งออกไปในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก อเมริกาใต้ นอร์เวย์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส รวมทั้งโซนตะวันออกกลาง แอฟริกา จากเดิมที่เป็นการรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์ลูกค้า หันมาเน้นสร้างแบรนด์ข้าวตราไก่แจ้ ทำให้เป็นที่รู้จัก
ฉะนั้นในบางประเทศที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้น จะนำเข้าข้าวมากขึ้น หรือช่วงที่กังวลว่าข้าวจะขาดตลาดก็จะสั่งเข้าไปเพิ่ม ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ยอดส่งออกเฉพาะข้าวสารจึงเติบโตกว่าร้อยละ 10
ถอดบทเรียนโควิด
สิ่งที่เรียนรู้จากวิกฤตโควิด-19 คือการเรียนรู้จุดอ่อนจุดแข็งของตนเอง ในวันนี้สถานการณ์ไม่มั่นคง ต้องรู้ว่าตัวเราเองจะอยู่ได้อย่างไร ถ้าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดต้องทำอย่างไร เพื่อให้อยู่ได้ทั้งพวกพ้องและคนรอบข้าง สำคัญคือต้องไม่ตื่นตระหนก ต้องมองไปข้างหน้า พร้อมที่จะปรับตัวตลอดเวลาอย่างเข้มแข็ง และต้องพร้อมที่จะมองเห็นโอกาสในอนาคตด้วย ไม่ว่าจะสถานการณ์วิกฤตหรือไม่วิกฤต ผมเลือกที่จะไม่หยุดอยู่กับที่ เพราะคิดว่าเราคงไม่ได้อยู่ตรงนี้ตลอดไป จะพยายามผลักดันให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา
อานิสงส์จากโควิด-19 ไม่เพียงทำให้กลุ่มผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สายอาหารได้รับแรงกระแทกน้อยกว่าธุรกิจสายอื่น แต่สายป่านจะไปได้ไกลแค่ไหนอยู่ที่ต้องสามารถปรับตัวได้เร็ว พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา
กรณีของแบรนด์ “ข้าวตราไก่แจ้” นั้น มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต้องให้โดนใจผู้บริโภคมากขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา มีช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้น ทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่าง traditional trade ที่สำคัญคือการมีฟู้ดเซอร์วิสที่เข้มแข็งให้บริการทั่วประเทศ
ฟู้ดเซอร์วิส 77 จังหวัด
การให้บริการฟู้ดเซอร์วิสของข้าวตราไก่แจ้ เราทำมานานเป็น 10 ปีแล้ว ความที่มีลูกค้ากว่าหมื่นรายกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงวางเป้าหมายที่การกระจายบริการส่งทั่วประเทศอยู่แล้ว โดยเริ่มจาก 3 อำเภอ ค่อย ๆ ขยายไปเรื่อย ๆ กระทั่งปัจจุบันมีรถกระจายโลจิสติกส์ใน 77 จังหวัด ส่งถึงที่ เข้าถึงทุกร้านค้าทั่วประเทศ
ยิ่งตอนนี้มีข้าวญี่ปุ่น และสินค้าหลากหลายที่มาตอบโจทย์ฟู้ดเซอร์วิสมากขึ้น ยิ่งได้รับการตอบรับจากร้านอาหาร โรงแรมมากขึ้น ผนวกกับทำโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาด จัดเซตผลิตภัณฑ์อย่างข้าวญี่ปุ่นกับสาหร่าย ประสบความสำเร็จอย่างมาก มีลูกค้าทั้งที่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารเกาหลีสั่งสินค้าเข้ามาจำนวนมาก
“ตอนนี้ไม่ใช่แค่ร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบเรื่องต้นทุน ฉะนั้นทุกคนจะมองหาการลดต้นทุนที่มาทดแทนซัพพลายเออร์เดิม ๆ ที่ใช้อยู่ แต่คุณภาพต้องได้เหมือนเดิม นั่นเป็นสิ่งที่เราตอบโจทย์ เราเป็นโรงงานที่ผลิตโดยตรง และมีบริการส่งถึงที่ นี่คือสิ่งที่ได้เปรียบ และเรื่องคุณภาพเรารับประกันถ้ามีปัญหาเราเปลี่ยนให้หมด”
“เราถือว่าเราเป็นเซอร์วิสคอมปะนี สิ่งที่ให้บริการคือสิ่งที่คุณต้องการ จึงให้บริการควบคู่กับสินค้าด้วย ต่อไปจะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์มากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ เติมเต็มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เพราะอยากให้แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ทุกคนเชื่อมั่นและมาใช้บริการต่อไปในอนาคต”