CEO ส.อ.ท. 150 ราย ชี้ “ค่าไฟ-ก๊าซแพง” ทุบเศรษฐกิจ จี้รัฐตรึงราคาด่วน

ส.อ.ท. เปิดผลสำรวจ CEO ส.อ.ท. 150 ราย “ปรับขึ้นค่าไฟ-ก๊าซ กระทบเศรษฐกิจแค่ไหน” ชี้กระทบมากด้านเศรษฐกิจ ราคาสินค้า วอนรัฐ คงค่าไฟฟ้า

วันที่ 3 มีนาคม 2565 นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 15 ในเดือนมีนาคม 2565 ภายใต้หัวข้อ “ปรับขึ้นค่าไฟ-ก๊าซ กระทบเศรษฐกิจแค่ไหน” พบว่ากรณีภาครัฐจะมีการพิจารณาปรับอัตราค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯขึ้นต่อเนื่องนั้น จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และยังเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูงในขณะนี้ จนทำให้ผู้ประกอบการมีความจำเป็นจะต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน

วิรัตน์ เอื้อนฤมิต

ดังนั้น จึงเสนอขอให้ภาครัฐพิจารณาคงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ในรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ยังได้แนะให้ภาคอุตสาหกรรมเร่งปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อประหยัดพลังงาน และหันมาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงานอุตสาหกรรม

จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 150 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 15 จำนวน 6 คำถาม ดังนี้

1.ปัจจุบันค่าไฟฟ้าและพลังงานคิดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนการผลิต

อันดับที่ 1 : 10 – 20% 38.7%
อันดับที่ 2 : น้อยกว่า 10% 25.3%
อันดับที่ 3 : 20 – 30% 20.7%
อันดับที่ 4 : มากกว่า 30% 15.3%

2.กรณีภาครัฐมีการปรับค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ* ขึ้นต่อเนื่อง จะกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับใด

อันดับที่ 1 : มาก 56.7%
อันดับที่ 2 : ปานกลาง 34.7%
อันดับที่ 3 : น้อย 8.6%

3.ผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ* ในเรื่องใด ที่ภาครัฐควรให้ความสำคัญ

อันดับที่ 1 : ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากต้นทุนพลังงานที่อยู่ระดับสูง 87.3%
อันดับที่ 2 : ภาระค่าครองชีพของประชาชน 82.0%
อันดับที่ 3 : เร่งอัตราเงินเฟ้อให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 51.3%
อันดับที่ 4 : กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวหรือหยุดชะงัก 41.3%

4.มาตรการใดมีประสิทธิภาพในการบรรเทาผลกระทบของประชาชนและภาคธุรกิจ จากค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ* ที่ปรับตัวสูงขึ้น

อันดับที่ 1 : การคงอัตราค่า Ft รอบเดือน พ.ค. – ส.ค. 2565 80.7%
อันดับที่ 2 : มาตรการความร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้า (Demand Response) 59.3%
โดยคืนผลประหยัดไฟฟ้าที่ลดได้ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า
อันดับที่ 3 : ตรึงราคาขายปลีกก๊าซฯ ชั่วคราว 53.3%
อันดับที่ 4 : มาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มในส่วนของผู้มีรายได้น้อย 52.7%
และผู้ประกอบการ SME เช่น ส่วนลดค่าไฟฟ้า, คูปองส่วนลดราคาก๊าซฯ

5.ภาคอุตสาหกรรมควรเตรียมรับมือผลกระทบจากค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ* ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างไร

อันดับที่ 1 : ปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อประหยัดพลังงาน 82.0%
อันดับที่ 2 : การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงาน 76.0%
เช่น Solar cell
อันดับที่ 3 : นำระบบการบริหารจัดการพลังงานมาใช้ 64.7%
และปรับแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุน
อันดับที่ 4 : บำรุงรักษาและปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร 53.3%

6.แนวโน้มภาคอุตสาหกรรมจะมีการใช้ไฟฟ้าและพลังงาน ปี 2565 อย่างไร

อันดับที่ 1 : เพิ่มขึ้นจากปี 2564 77.3%
อันดับที่ 2 : ทรงตัว 20.7%
อันดับที่ 3 : ลดลงจากปี 2564 2.0%

หมายเหตุ : * ราคาก๊าซฯ คือ NG / NGV / LPG ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิต ขนส่ง และภาคครัวเรือน