พาณิชย์ เตรียมชงกนศ. – ครม. เห็นชอบกรอบ FTA อาเซียน เอฟตา

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม
อรมน ทรัพย์ทวีธรรม

‘พาณิชย์’ เตรียมชงกนศ. – ครม. เห็นชอบกรอบเจรจาอัพเกรด FTA อาเซียนและคู่ค้าสำคัญ พร้อมการเปิดทางเจรจา FTA ไทย-เอฟตา

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2565 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดประชุมหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มเกษตรกร ภาคประชาสังคม และนักวิชาการ เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อรับฟังความเห็นต่อการจัดทำกรอบการเจรจาเพื่อทบทวนหรือยกระดับความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของอาเซียน และของอาเซียนกับคู่ค้าสำคัญ

ซึ่งสืบเนื่องจากที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนมีมติเห็นชอบให้อาเซียนเริ่มการเจรจาทบทวนความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) ที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2553 และทบทวน FTA ที่อาเซียนทำกับคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2548-2553 ให้ทันสมัย รองรับประเด็นการค้าใหม่ๆ และรูปแบบการค้าที่เปลี่ยนไป อาทิ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน และการเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิต

ที่ประชุมได้ข้อสรุปการจัดทำกรอบการเจรจาของไทยเพื่อทบทวน FTA ของอาเซียนและคู่ค้าสำคัญแล้ว โดยกรมฯ จะนำผลสรุปดังกล่าว เสนอนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบต่อไป เพื่อให้คณะเจรจาของไทยจะได้ใช้เป็นท่าทีการเจรจายกระดับ FTA ของอาเซียนและคู่ค้าสำคัญ

การทบทวน FTA ของอาเซียนและคู่เจรจา จะเป็นโอกาสให้ไทยได้หารือกับประเทศคู่ค้าสำคัญเพื่อให้เปิดตลาด ลดและยกเว้นภาษีศุลกากรเพิ่มเติมในรายการสินค้าและบริการที่ไทยมีศักยภาพ เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศคู่ค้ายังไม่ได้ยกเลิกการเก็บภาษีจากไทย รวมทั้งการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่มีอยู่ เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ FTA ที่ไทยทำกับอาเซียนและคู่เจรจามีผลบังคับใช้ พบว่า มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอาเซียนในปี 2564 เพิ่มขึ้น 94% นับจากบังคับใช้ ในปี 2553 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับจีนเพิ่มขึ้น 580% นับตั้งแต่ FTA อาเซียน-จีน บังคับใช้ในปี 2548 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 92% นับตั้งแต่ FTA อาเซียน-เกาหลีใต้ บังคับใช้ในปี 2553 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอินเดียเพิ่มขึ้น 202% นับตั้งแต่ FTA อาเซียน-อินเดีย บังคับใช้ในปี 2553 และมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 51% นับตั้งแต่ FTA มีผลบังคับใช้ในปี 2553

นางอรมน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา กรมฯ ได้จัดประชุมภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังความเห็นต่อการจัดทำกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (เอฟตา)การประชุมครั้งนี้ ได้ข้อสรุปกรอบการเจรจา FTA ไทย – เอฟตา โดยกรมฯ จะนำกรอบดังกล่าว เสนอนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติต่อไป ทั้งนี้ หาก ครม.เห็นชอบ กรมฯ จะประสานแจ้งฝ่ายเอฟตาทราบ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเจรจาจัดทำ FTA ไทย-เอฟตา ต่อไป

สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (เอฟตา) ประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ การค้าระหว่างไทยกับเอฟตา ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2560-2564) มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 10,010 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเอฟตา มูลค่า 4,540 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้าจากเอฟตา มูลค่า 5,470 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องสำอาง ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม