ช่วงสงกรานต์อากาศแปรปรวนช่วยลดฝุ่น PM 2.5

ฝนตก พายุฤดูร้อน
File PHOTO : Pixabay

“ทีมกรุ๊ป” ชี้สภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกกระจายในหลายพื้นที่ช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ได้ดีในระหว่างวันที่ 12-19 เม.ย.นี้

วันที่ 16 เมษายน 2565 นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัททีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนต์ หรือทีมกรุ๊ป กล่าวถึง สภาพอากาศในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออ้างอิงจากภาพถ่ายดาวเทียมของ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA

ปรากฏมีฝุ่น PM 2.5 สะสมตัวมีค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยฝุ่น PM 2.5 เหล่านี้จะมีแหล่งกำเนิดมาจาก 1) การเผาในที่โล่งมากที่สุดหรือคิดเป็น 59% ในส่วนที่มาจากการเผาของคนในประเทศต้องช่วยกันรณรงค์ลดการเผาลงอย่างเคร่งครัด

2) รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน และโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเช่น ถ่านหิน แก๊สธรรมชาติ และน้ำมันในการผลิตไฟฟ้าหรือคิด 23% จะต้องรณรงค์ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวหันมาใช้รถสาธารณะ หรือใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (รถ EV) ให้มากขึ้น และลดการใช้ไฟฟ้าลง

3) โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวนการผลิตหรือคิดเป็น 18% ผู้ประกอบการต้องร่วมกันลดการใช้น้ำมัน แก๊สธรรมชาติและถ่านหินลง ปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรอุตสาหกรรม

ส่วนสภาพอากาศที่จะมีผลต่อการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของฝุ่น PM 2.5 ในระหว่างวันที่ 12 เม.ย ถึง 19 เม.ย 2565 พบว่า

วันที่ 12 เม.ย. ลมตะวันออกและลมตะวันตกเฉียงใต้ เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ฝุ่น PM 2.5 ถูกพัดให้กระจายตัว ลดการสะสมลง สภาวะคุณภาพอากาศจึงเริ่มคลี่คลายลง

วันที่ 17-19 เม.ย. จะมีลักษณะอากาศแปรปรวน มีฝนตกเล็กน้อยกระจายในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจะมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางในภาคใต้ จะทำให้ฝุ่น PM 2.5 จะถูกพัดให้กระจายตัวไปอีก ลดการสะสมลง และจะทำให้คุณภาพอากาศคลี่คลายไปในที่สุด

“ในปีก่อน ๆ ที่ผ่านมา เราจะพบกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 สะสมมากจนมีผลกระทบต่อสุขภาพตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม แต่ปีนี้มีสภาวะอากาศแปรปรวน มีลมกรรโชกแรง ลมอุ่นจากพม่า ลมชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย และลมหนาวจากประเทศจีน (ความกดอากาศสูง) มาปะทะกันในพื้นที่ประเทศไทยอยู่บ่อย ๆ จึงทำให้การหมุนเวียนของอากาศดีมาก และมีฝนตกในหลายพื้นที่ สภาพฝุ่น PM 2.5 จึงถูกพัดกระจายตัว ไม่มีการสะสมมากจนสามารถคลี่คลายสถานการณ์ฝุ่นลงไปได้มากกว่าปีก่อน ๆ” นายชวลิตกล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากภาวะอากาศแปรปรวนหมดไปและลมหนาวระลอกสุดท้ายจากประเทศจีน ที่เคลื่อนที่ลงมาเมื่อวันที่ 3 เมษายน (ทำให้ภาคเหนือหนาว) ผ่านพ้นไปแล้วก็จะเกิดอากาศนิ่ง เกิดสภาวะทั้งร้อนจัดและมีฝุ่น PM2.5 สะสมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีผลกระทบต่อสุขภาพ

และจะต้องรอจนถึงช่วงประมาณวันที่ 17-19 เมษายนนี้จะเกิดสภาพอากาศแปรปรวนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ส่งผลทำให้มีฝนตกปานกลางกระจายไปทั้งในภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพฯและปริมณฑล ฝุ่น PM2.5 จากแหล่งต่าง ๆ ที่มาสะสมกันอยู่ก็จะกระจายตัวลดลงไปได้อีกครั้ง