อินโนบิกผนึกอินเตอร์ฟาร์มา ดันนวัตกรรมยาปั๊มยอดหมื่นล้านปี’70

อินเตอร์ ฟาร์มา ผนึกอินโนบิกชู 7 กลยุทธ์ รุกธุรกิจสุขภาพครบวงจร ปักธงรายได้แตะ 5,000 ล้านบาท ใน 5 ปี ต่อยอดความร่วมมือพัฒนางานวิจัยผลิตภัณฑ์สุขภาพจากหิ้งสู่ห้าง ขยายตลาดในประเทศ-ส่งออก หนุนภาพรวมเศรษฐกิจไทย

ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP เปิดเผยถึงความร่วมมือกับบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ผ่านการลงทุนบริษัท อินโนบิกแอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระยะยาว (long term strategic partner) ต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจสุขภาพแบบครบวงจร

ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ภายใต้ 7 โครงการความร่วมมือ (partnership projects) ประกอบด้วย การร่วมลงทุนโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ยาตาจากยุโรป

เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของโรงงานอินเตอร์ ฟาร์มา จ.พระนครศรีอยุธยา ให้สามารถผลิตยาตาที่มีมาตรฐานสากล พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายส่งออกไปทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดยุโรปและอเมริกา และการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ รูปแบบ digital platform

ทั้ง telepharmacy และ telemedicine เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการแพทย์ของประเทศ และภาพรวมการเติบโตของบริษัท โดยมีเป้าหมายรายได้รวมจากเดิม 5,000 ล้านบาท เป็น 10,000 ล้านบาท ในเวลา 5 ปี (2565-2570)

“อินโนบิกจะร่วมมือกันตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ โดยจะใช้โรงงานอินเตอร์ ฟาร์มา และโรงงานโมเดิร์น ฟาร์มา เป็นฐานการผลิตเวชภัณฑ์และอาหารเสริมสุขภาพของบริษัท อินโนบิก มุ่งเน้นทั้งผลิตภัณฑ์นวัตกรรม หรือไบโอเมดิคอลโปรดักต์ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ยาสามัญทั่วไป, โภชนเภสัชและอาหารเสริม

รวมไปถึงอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ การร่วมมือในการขยายเครือข่าย LAB PHARMACY รวมไปถึงการร่วมกันพัฒนาและขยายตลาดเครื่องดื่มสมุนไพร น่าจะช่วยให้รายได้เติบโตมากกว่าและเร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้” ดร.ตฤณวรรธน์กล่าว

นพ.อุดม คชินทร ประธานกรรมการ IP กล่าวว่า อนาคตเราต้องเจอโรคระบาดที่กำลังจะเกิด และโรคอุบัติใหม่ และสังคมผู้สูงวัย เมื่อเกิดวิกฤตโควิดทำให้ทุกคนหันกลับมามองและปรับตัวเองใหม่ ศักยภาพอุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมที่แข่งได้ไม่แพ้ใครในโลก ต้องเสริมเรื่องของ R&D เพราะปัจจุบันประเทศไทยนำเข้ายา 110,000 ล้านบาท/ปี นำเข้าอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ 50,000-60,000 ล้านบาท/ปี

ด้าน ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือและการร่วมทุนในครั้งนี้ มากกว่าการเข้าไปถือหุ้น (20%) แต่จะต่อยอดการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร

ตั้งแต่เวชกัณฑ์ที่ใช้กับนวัตกรรมทางยา โภชนเภสัชและอาหารเสริม ยาสมุนไพรของไทย อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เพื่อพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ พร้อมขยายตลาดให้ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นการเพิ่มมูลค่าความหลากหลายทางชีวภาพ ที่จะช่วยผลักดันภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย

เป้าหมายของการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เราต้องการให้ไทยสามารถผลิตยาทดแทนการนำเข้า มุ่งให้อินโนบิกเป็นธุรกิจ life science ชั้นนำของภูมิภาค ด้วยยุทธศาสตร์การจับมือกับพันธมิตรสร้างนวัตกรรม เช่น บริษัท โลตัส ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ก่อนหน้านี้ ที่บริษัทได้ถือไลเซนส์การซื้อขายยาและสิทธิบัตรที่มีเครือข่ายทั่วโลก

“อินโนบิกมี 3 ธุรกิจหลัก คือ 1.ยา เช่น ยาตา 2.อุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งโรงงานพร้อมที่จะเปิดเดินเครื่องการผลิตหน้ากาก N95 รวมถึงชุด PPE และ 3.อาหารเพื่อสุขภาพอย่างเครื่องดื่มกระท่อมแบบแคปซูล ซึ่งปีนี้ 2565 จะเน้นการผลิตอาหารและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ระบบฆ่าเชื้อห้องปลอดเชื้อ ซึ่งเราจะต้องทำตามมาตรฐานขอขึ้นทะเบียน อย.

ถ้าทำได้การผลิตในประเทศก็จะเป็นเมดอินไทยแลนด์ และเป็นนวัตกรรม สามารถขายเข้า รพ.ในประเทศและส่งออกได้ เมื่อเราทำได้ครบวงจร ดึงความเก่งของแต่ละคน ก็จะสามารถทำให้เราในอนาคตอาจเป็นศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง”

ทั้งนี้ รายได้หลักมาจากงบฯบริษัทลูก รายได้ของตัวเองยังไม่มาก เพราะกำลังเริ่มต้น เราเน้นสร้างอีโคซิสเต็ม ทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท (ธ.ค. 2553) ขณะนี้ทุนจดทะเบียนเป็น 10,000 ล้านบาท อาจต้องเพิ่มทุนของการจัดแผนกันใหม่