ผ้าไทย GI บุกฝรั่งเศสตลาดแฟชั่นโลก

กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือสำนักงานทรัพย์สินอุตสาหกรรมฝรั่งเศส (INPI) ผลักดันดีไซเนอร์ไทยบุกตลาดฝรั่งเศส และร่วมหารือสมาคมการค้าตัวแทนผู้ผลิตแชมเปญ (Comité Champagne) ใช้ผ้า GI ไทย เป็นส่วนหนึ่งของบรรจุภัณฑ์

วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ได้นำคณะพบนายปาสคาล โฟร์ อธิบดีสำนักงานทรัพย์สินอุตสาหกรรมแห่งประเทศฝรั่งเศส (INPI) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยหารือความร่วมมือระหว่างกรม กับ INPI เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น การส่งเสริมสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในเชิงพาณิชย์ การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาไทยในตลาดแฟชั่นฝรั่งเศส และการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทยเพื่อพร้อมรุกตลาดต่างประเทศ

ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ กรมร่วมกับ INPI เตรียมจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลการคุ้มครองลิขสิทธิ์และการออกแบบแฟชั่น ซึ่งจะเป็นประโยชน์และปูทางให้นักออกแบบแฟชั่นรุ่นใหม่ของไทยเข้าใจแนวทางการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในฝรั่งเศส พร้อมบุกตลาดฝรั่งเศสได้อย่างมั่นใจต่อไป

นอกจากนี้ กรมได้หารือกับสมาคมการค้าตัวแทนผู้ผลิตแชมเปญในประเทศฝรั่งเศส (Comité Champagne) เพื่อผลักดันการนำผ้า GI ไทย ที่เนื้อผ้ามีเอกลักษณ์และลวดลายสวยงาม ทั้งผ้าไหมยกดอกลำพูน ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร และผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ไปใช้เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าแชมเปญ ซึ่งเป็นอีกนโยบายสำคัญเพื่อสร้างความร่วมมือและสร้างโอกาสในการขยายตลาดสินค้า GI ไทยไปยังต่างประเทศ ผ่านการจับคู่กับสินค้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก

และในโอกาสนี้ ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลความเห็นเกี่ยวกับการผลิต การทำการตลาด การควบคุมดูแลคุณภาพและชื่อเสียงของสินค้าแชมเปญ ตลอดจนการดำเนินการกับสินค้าแชมเปญปลอม
เพื่อนำแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้ในการยกระดับคุณภาพสินค้า GI ให้ได้คุณภาพทัดเทียมระดับสากล


​ ปัจจุบันไทยมีสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในประเทศแล้วทั้งสิ้น 179 รายการ โดยเป็นสินค้าไทย 161 รายการ และสินค้าต่างประเทศ 18 รายการ รวมถึงแชมเปญและคอนยัคฝรั่งเศส และไทยยังมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในสหภาพยุโรป ซึ่งครอบคลุมถึงประเทศฝรั่งเศส เช่น กาแฟดอยช้าง กาแฟดอยตุง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง โดยที่ผ่านมา สินค้า GI ไทยสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้มากกว่า 42,000 ล้านบาท