การนำเข้าวัตถุดิบทดแทนสำหรับใช้ผลิตอาหารสัตว์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์อนุญาตยกเว้นมาตรการ 3 ต่อ 1 หรือมาตรการที่กำหนดให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ต้องรับซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน เพื่อนำเข้า 1 ส่วน รวมปริมาณ 1.2 ล้านตัน ในเวลา 4 เดือน กำลังจะสิ้นสุดลงในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งอาจจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์และการเลี้ยงปศุสัตว์ในครึ่งปีหลัง
แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ผลิตข้าวโพด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ระดับราคาข้าวโพดอ่อนตัวลงเหลือ กก.ละ 13.12 บาท จากเดือนก่อนที่รับซื้อ กก.ละ 13.24 บาท โดยผลผลิตกำลังจะทยอยออกสู่ตลาด ซึ่งเบื้องต้นมีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลี และข้าวบาร์เลย์รวม 904,703 ตัน จากเป้าหมาย 1.2 ล้านตัน (ตามตาราง) แบ่งเป็นการนำเข้าข้าวสาลีที่ขออนุมัตินำเข้าระหว่างเดือน พ.ค.-10 ก.ค. รวมปริมาณ 280,256 ตัน ซึ่งนำเข้าไปแล้ว 186,334 ตัน ส่วนการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 624,446 ตัน ข้าวบาร์เลย์ไม่มีการนำเข้า
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
ด้านนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ทางสมาคมอยู่ระหว่างเตรียมหารือกับกรมการค้าภายใน หลังจากที่ได้เคยยื่นหนังสือเพื่อให้พิจารณาลดอุปสรรคการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ไปก่อนหน้า แต่ไม่ได้รับการตอบรับดำเนินการใด ๆ ทำให้การนำเข้าสามารถทำได้ปริมาณไม่มากนัก และกำลังจะสิ้นสุดมาตรการยกเว้นมาตรการ 3 ต่อ 1 ในสิ้นเดือนนี้
“เราต้องพิจารณาหลายปัจจัยว่า หากขอยืดมาตรการต่อไปอีกจะเป็นอย่างไร เพราะผลผลิตข้าวโพดในประเทศเริ่มออก และค่าเงินบาทอ่อนค่าลง 10% จาก 33 เป็น 36 บาท การนำเข้าจะมีต้นทุนสูงขณะที่มาตรการที่ขอให้ภาครัฐลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองก็ไม่ได้รับการพิจารณา”